“ศักดิ์สยาม”ฟิตออกประกาศเรียกรถผ่านแอปพลิเคชั่น เร่ิมพ.ย.นี้

  • ทางเลือกการเดินทางของประชาชนยุคดิจิทัล
  • เพิ่มช่องทางสร้างรายได้ให้กับประชาชน
  • พร้อมควบคุม กำกับ ดูแลการให้บริการเกิดความปลอดภัยและเป็นธรรมกับผู้โดยสาร

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยว่า ภายหลังจากที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการร่างกฎกระทรวงว่าด้วยรถยนต์รับจ้างบรรทุกคนโดยสารไม่เกินเจ็ดคนผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ. …. เมื่อ 25 พ.ค. 64 แล้วนั้น ล่าสุดเมื่อวันที่ 30 ก.ย.ตนได้ลงนามในประกาศกระทรวง 1ฉบับ เรื่อง กำหนดอัตราค่าจ้างบรรทุกคนโดยสารและค่าบริการสำหรับรถยนต์รับจ้างผ่านอิเล็กทรอนิกส์ พ.ศ.2564 ส่วนกรมการขนส่งทางบก(ขบ.)โดยอธิบดีกรมการขนส่งทางบก ได้ลงนามในประกาศ อีก 4 ฉบับ ซึ่งการลงนามในประกาศทั้ง 5 ฉบับ จะทำผู้ที่สนใจสามารถมายื่นขอจดทะเบียนแอพพลิเคชั่นกับ ขบ.ที่จะให้บริการเรียกรถผ่านแอพฯ รวมถึงผู้ที่มีรถยนต์ส่วนบุคคล สามารถเข้ามาขอจดทะเบียนกับขนส่งทางบกเพื่อให้บริการรถยนต์โดยสารสาธารณะผ่านแอพพลิเคชั่นได้ ตั้งแต่ 1 ต.ค.เป็นต้นไป ซึ่งตามขั้นตอนในการขอขึ้นทะเบียนจะไม่เกิน 30 วัน หากผ่านการพิจารณาคาดว่าภายในเดือนพ.ย.64 จะมีการเริ่มเปิดให้บริการเรียกรถผ่านแอพพลิเคชั่นได้ เบื้องต้นคาดว่าจะมีรถส่วนบุคคลสนใจเข้าร่วมแอพพลิเคชั่น ประมาณ 10,000 คัน

อย่างไรก็ตามแม้ว่าจะเปิดให้รถส่วนบุคคลเข้ามาจดทะเบียนเพื่อบริการโดยสารสาธารณะ ทาง ขบ. ยังเปิดโอกาสให้ ผู้ให้บริการรถแท็กซี่ปัจจุบันมาจดทะเบียนกับผู้ให้บริการแอพพลิเคชั่นได้ เพื่อเป็นทางเลือก โดยค่าโดยสารของแท็กซี่ที่เรียกผ่านแอพฯทาง ขบ.จะคิดค่าโดยสารแบบประเมินล่วงหน้าตามที่กำหนดสำหรับแท็กซี่ และไม่คิดค่าธรรมเนียมการใช้แอพฯจากผู้ขับรถ

ทั้งนี้ในส่วนของค่าโดยสารของรถยนต์ส่วนบุคคลที่เรียกผ่านแอพฯ จะให้มีการคำนวณแยกตามขนาดรถ โดยค่าโดยสารเริ่มต้นระหว่าง 40-150 บาท ส่วนระยะทางจะคำนวณที่ 6-16 บาทต่อกิโลเมตร หากรถติดหรือหยุดจะคิดที่ 2 บาท/นาที ส่วนค่าธรรมเนียมเรียกรถของผู้ใช้บริการนั้นให้คิดที่ 20 บาท/คัน นอกจากนั้นยังกำหนดให้ผู้ให้บริการแอพฯสามารถเรียกเก็บค่าส่วนแบ่งจากการบริการไม่เกิน 25%จากเจ้าของรถ

ขณะที่นายจิรุตม์ วิศาลจิตร อธิบดีกรมขนส่งทางบก (ขบ.) กล่าวว่า การยื่นเรื่องขออนุญาติดังกล่าวจะต้องมีคุณสมบัติตามกฎหมายกำหนด คือเป็นนิติบุคคลที่จดทะเบียนในประเทศไทย มีทุนจดทะเบียน ไม่ต่ำกว่า 5 ล้านบาท มีสถานที่ประกอบการในไทย มีความพร้อมในการให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง และต้องไม่เคยถูกเพิกถอนการได้รับอนุญาตให้เป็นผู้ให้บริการระบบ GPS ตามกฎหมายของกรมการขนส่งทางบก โดยจะพิจารณาเกณฑ์ดังกล่าวไม่เกิน 1 เดือน