“ศักดิ์สยาม”ตามการบ้านทางหลวงเร่งยกเลิกไม้กั้นหน้าด่านหวังแก้ปัญหารถติดทางด่วน-มอเตอร์เวย์

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมติดตามการพัฒนาระบบจัดเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติแบบไม่มีไม้กั้น (M-Flow) เพื่อแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่านบนทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองหมายเลข 9 และ โครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (Motorway M81)ว่า ​​เพื่อแก้ไขปัญหารถติดหน้าด่าน ขณะนี้ได้มีการวางระบบให้สามารถบูรณาการกับการทางพิเศษแห่งประเทศไทย (กทพ.) ในการพัฒนาM-Flow ให้เป็นรูปแบบและมาตรฐานเดียวกัน (Single Platform System) ซึ่งเป็นระบบเก็บค่าธรรมเนียมผ่านทางอัตโนมัติในรูปแบบการอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ ร่วมกับระบบการตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ โดยผู้ใช้รถยนต์สามารถขับขี่ผ่านบริเวณด่านฯที่จะมีการติดตั้งโครงเสาแขวนสูงเหนือศีรษะ พร้อมอุปกรณ์ระบบตรวจจับยานพาหนะอัตโนมัติ ระบบอ่านป้ายทะเบียนรถอัตโนมัติ โดยไม่ต้องหยุด หรือชะลอรถ โดยระบบ M-Flow ได้ออกแบบให้รองรับการใช้ความเร็วสูงสุด 120 กม./ชม. ซึ่งหากระบบนี้ปฎิบัติได้จะทำให้สามารถระบายรถหน้าด่านได้เร็วกว่าระบบเดิมถึง 5 เท่า 

ส่วนความคืบหน้าขณะนี้นั้น ทางหลวงได้มีการติดตั้ง M-Flow Gantry ไปแล้วทั้ง 4 ด่านประกอบไปด้วย ด่านทับช้าง 1, 2 และด่านธัญบุรี 1, 2 ขณะเดียวกันอยู่ระหว่างการปรับปรุงกายภาพบริเวณช่องทางงาน เพื่อติดตั้งป้ายเครื่องหมายจราจร และการดำเนินการด้านวิศวกรรมและระบบ IT

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า นอกจากนี้​ได้มีสั่งการให้ ทล. เร่งดำเนินการ ระบบ M-Flow ให้เป็นไปตามแผนเพื่อนำไปสู่ภาคการปฏิบัติโดยเร็ว ในโครงการทางหลวงพิเศษระหว่างเมืองสายบางใหญ่ – กาญจนบุรี (M81) รวมทั้งให้มีการประสานสำนักงบประมาณ (สงป.) เพื่อหารือเกี่ยวกับการบริหารเงินเหลือจากการก่อสร้าง    มาดำเนินการในส่วนของค่างานที่เพิ่มขึ้นโดยเฉพาะ งานก่อสร้าง มอเตอร์เวย์ สายบางใหญ่ – กาญจนบุรี ตอนที่ 12 ที่มีค่างานก่อสร้างเพิ่มขึ้น 120.37 ล้านบาท เนื่องจากมีการแก้ไขรูปแบบงานสะพานให้มีความสอดคล้องกับข้อกำหนดของกรมชลประทาน และเพิ่มงานโครงสร้างชะลอการทรุดตัวบริเวณคอสะพาน (Bearing Unit)

สำหรับโครงการ Motorway M81 มีระยะทาง 96 กิโลเมตร ประกอบด้วย ด่านเก็บค่าผ่านทาง จำนวน 8 แห่ง วงเงินลงทุนโครงการ 55,927 ล้านบาท (ค่าก่อสร้าง 38,475 ล้านบาท และค่าเวนคืน 17,452 ล้านบาท) ระยะเวลาดำเนินโครงการ ปี 2559 – 2566 แบ่งการก่อสร้างเป็น 25 สัญญา ซึ่งก่อสร้างแล้วเสร็จ 4 สัญญาและอยู่ระหว่างการก่อสร้าง 21 สัญญา โดยมีความคืบหน้าการก่อสร้าง 49.989% เร็วกว่าแผนงาน5.972 %