“ศักดิ์สยาม”จัดเต็มต้นปี66เปิดให้ขึ้น”รถไฟฟ้าชมพู-เหลือง”ฟรี

ศักดิ์สยาม”สั่งการบ้านเตรียมความพร้อม“รถไฟฟ้าโมโนเรลสายสีเหลืองและสายสีชมพู”เปิดให้บริการต้นปี 66 พร้อมสั่งนำ บัตรโดยสาร EMV มาใช้หวังลดค่าแรกเข้า-จัดค่าโดยสารแบบแพคเกจ ลดภาระประชาชน

นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม เปิดเผยภายหลังเป็นประธานประชุมคณะกรรมการเตรียมการเปิดให้บริการโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและสายสีชมพู ว่า ขณะนี้การดำเนินการในโครงการทั้ง 2เส้นทางพบว่ามีความคืบหน้าอย่างมาก โดยรถไฟฟ้าสายสีเหลือง (ช่วงลาดพร้าว – สำโรง) มีความคืบหน้ากว่า 92.93% ซึ่งเส้นทางนี้มีแผนเปิดให้ประชาชนเข้ามาใช้บริการบางส่วนของเส้นทางฟรี ในเดือนม.ค.66 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือนมิ.ย. 66 ส่วนสายสีชมพู (ช่วงแคราย – มีนบุรี) มีความคืบหน้า 88.51% และมีแผนเปิดให้บริการบางส่วนของเส้นทางในเดือน ก.พ.66 และเปิดให้บริการเต็มรูปแบบในเดือน ก.ค. 66

ดังนั้นเพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรองรับการเปิดให้บริการ ทั้งในส่วนของสิ่งอำนวยความสะดวกภายในสถานี ,การเชื่อมต่อการเดินทางระหว่างรถไฟฟ้ากับรถไฟฟ้า และการเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้ากับระบบคมนาคมขนส่งรอง เช่น รถโดยสารประจำทางและเรือโดยสาร ตลอดจนอัตราค่าโดยสารที่เหมาะสมมาใช้ กระทรวงคมนาคมจึงได้มีการแต่งตั้งคณะกรรมการและคณะอนุกรรมการด้านต่างๆ เพื่อรองรับการเปิดให้บริการ  ใน 4 ด้าน 

นายศักดิ์สยาม กล่าวต่อว่า ตนได้มีนโยบายสั่งการให้คณะอนุกรรมการเตรียมความพร้อมทั้ง 4 ด้าน ดำเนินการดังนี้ 1. คณะอนุกรรมการด้านการเดินรถ ให้มีการเชื่อมต่อการให้บริการระบบขนส่ง และการประเมินคุณภาพ ซึ่งในส่วนนี้เมื่อมีการก่อสร้างแล้วเสร็จจะให้บริการเสมือนจริงโดยยังไม่เก็บค่าโดยสารจนกว่าจะมีการทดสอบระบบเพื่อทราบปัญหาอุปสรรคและแก่ไขเรียบร้อย 2. คณะอนุกรรมการด้านราคาค่าโดยสารและบัตรโดยสาร ให้นำเทคโนโลยีบัตรโดยสารในรูปแบบ EMV (Europay Mastercard Visa) มาใช้เพื่ออำนวยความสะดวกให้แก่ประชาชน ขณะเดียวกันให้พิจารณาการลดค่าแรกเข้าการเชื่อมต่อรถไฟฟ้าที่ซ้ำซ้อน รวมถึงให้จัดทำรูปแบบอัตราค่าโดยสารแบบแพคเกจ ร่วมกับโครงการรถไฟฟ้าสายอื่นๆ ที่เชื่อมต่อตามแนวเส้นทาง 

นอกจากนั้น 3. คณะอนุกรรมการด้านการสื่อสารสาธารณะ ให้เน้นการประชาสัมพันธ์เชิงรุกชี้แจงประชาชนทั้งการเปิดให้บริการ และ เส้นทางเชื่อมต่อระหว่างรถไฟฟ้าที่ให้บริการขณะนี้ และ 4. ด้านการเตรียมการขอพระราชทานนามแนวเส้นทางโครงการทั้ง 2 สาย โดยให้ประสานคณะอนุกรรมการที่เกี่ยวข้อง เพื่อรวบรวมข้อมูลประกอบการขอพระราชทานนามแนวเส้นทางโครงการทั้ง 2 สาย โดยให้ดำเนินการตามขั้นตอนและระเบียบที่เกี่ยวข้องอย่างเคร่งครัด