“ศรีสุวรรณ” ลั่นม็อบ “กลุ่มนักเรียนเลว” จัดกิจกรรมขึ้นรถแห่ประท้วง ไล่ รมว.ศึกษาธิการ ผิดกฎหมาย ชี้ผู้ปกครองก็ผิดด้วย

นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย เปิดเผยว่า ตามที่กลุ่มนักเรียนเลว ได้นัดรวมตัวกันประมาณ 30 กว่าคน จัดกิจกรรมขึ้นรถแห่ไปยัง 5 โรงเรียน และ 1 กระทรวง เพื่อมีเป้าหมายไล่นายณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รมว.ศึกษาธิการ โดยเริ่มกิจกรรมขึ้นรถแห่ไปที่โรงเรียนสามเสนวิทยาลัยเป็นจุดแรก มีการปราศรัยกรณีลงโทษนักเรียนรุนแรง และทำร้ายร่างกายนักเรียนพร้อมติดป้ายผ้าขวางประตูทางเข้าโรงเรียน ก่อนเคลื่อนขบวนไปยังโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษา โรงเรียนเซนต์โยเซฟคอนเวนต์ โรงเรียนเทพศิรนทร์ และโรงเรียนวัดราชบพิธ ตามลำดับ ก่อนจะมาถึงบริเวณหน้ากระทรวงศึกษาธิการ ถนนราชดำเนินนอก เพื่อเรียกร้องให้รัฐมนตรีต้องจัดการกับปัญหาโรงเรียนไม่ปลอดภัย โดยหากทำไม่ได้จะมีกิจกรรมไล่รัฐมนตรีต่อไปนั้น

ทั้งนี้การจัดกิจกรรมดังกล่าว แม้เป็นการอ้างสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ 2560 ม.34 แต่ทว่ากลับเป็นการฝ่าฝืนข้อยกเว้นของรัฐธรรมนูญในมาตราดังกล่าว เพื่อคุ้มครองสิทธิ์หรือเสรีภาพของบุคคลอื่น เพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน หรือเพื่อป้องกันสุขภาพของประชาชน ดังนั้นการจัดกิจกรรมดังกล่าวจึงเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายหลายข้อหา อาทิ 1)ข้อหากีดขวางทางจราจร และหยุดหรือจอดรถเป็นการกีดขวางการจราจร ตาม ม.43 พรบ.จราจรทางบก 2522

2)ข้อหาใช้เครื่องเสียงโดยไม่ขออนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ ตาม ม.4 พรบ.ควบคุมการโฆษณาโดยใช้เครื่องขยายเสียง 2493 3)ข้อหาใดส่งเสียงทำให้เกิดเสียงหรือกระทำความอื้ออึงทำให้ประชาชนเดือดร้อน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.370 ซึ่งทั้ง 3 ข้อหาข้างต้นมีอัตราโทษปรับเล็กน้อยไม่เกิน 1,000 บาทเท่านั้น

แต่ทว่าในข้อหาที่ 4)ข้อหายุยง ส่งเสริมให้มีการล่วงละเมิดกฎหมายแผ่นดิน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.116 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี 5)ข้อหาจัดชุมนุมสาธารณะในลักษณะกีดขวางทางเข้าออกของสถานที่ราชการ และหรือไม่ขออนุญาต อันเป็นการฝ่าฝืน ม.8 ม.10 ของพรบ.การชุมนุมสาธารณะ 2558 ระวางโทษจําคุกไม่เกิน 6 เดือน หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจําทั้งปรับ 6)การฝ่าฝืนระเบียบของโรงเรียนตาม ม.64 ของพรบ.คุ้มครองเด็ก 2546 ซึ่งผู้ที่ยุยง ส่งเสริม ช่วยเหลือ หรือสนับสนุนให้เด็กนักเรียนดังกล่าวทำผิด มีโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ

“ที่สำคัญการที่ผู้ปกครองของเด็กเหล่านี้ปล่อยปละละเลย ให้เด็กออกมากระทำผิดกฎหมายเยี่ยงนี้ ผู้ปกครองย่อมมีโทษตามที่กฎหมายบัญญัติอีกด้วย” นายศรีสุวรรณ กล่าว