- หลังพบปัจจุบันธุรกิจเติบโตไม่ทันความต้องการที่เพิ่มขึ้น
- ชี้ปี 63 คนคนชราในไทย 13 ล้านคน อีก 10 ปี เพิ่มเป็น 18 ล้านคน
- ย้ำต้องให้มาตรฐานสากลรองรับทั้งคนไทยและต่างชาติ
นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้สั่งการให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เร่งพัฒนาธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในประเทศให้มีระบบการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพและมีมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล พร้อมกับหาวิธีสร้างแรงจูงใจให้ภาคธุรกิจเข้ามาลงทุนในธุรกิจนี้มากขึ้น เพราะไม่เพียงแต่จะช่วยรองรับจำนวนผู้สูงอายุของไทยที่เพิ่มขึ้นเท่านั้น แต่ยังส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้สูงวัยให้ได้รับการดูแลที่ดีขึ้น นอกเหนือจากรัฐสวัสดิการที่รัฐบาลจัดสรรให้ รวมถึงเป็นอีกทางเลือกหนึ่งสำหรับผู้สูงอายุในการใช้ชีวิตหลังวัยเกษียณ ซึ่งปัจจุบันบุตรหลานมักจะเใช้บริการธุรกิจดูแลผู้สูงอายุในการดูแลบุพการี หรือผู้สูงวัย ส่งผลให้ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุของไทยมีโอกาสเติบโตได้อีกมาก
“ไทยกำลังจะก้าวเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างเต็มรูปแบบในอีก 1-2 ปีข้างหน้า คาดว่าในปี 63 จะมีผู้สูงอายุที่มีอายุเกิน 60 ปี ราว 13 ล้านคน และในปี 73 จะมีเกินกว่า 18 ล้านคน หรือ 27% ของจำนวนประชากรทั้งประเทศ ซึ่งไม่เพียงเฉพาะไทยเท่านั้น และเมื่อเปรียบเทียบสัดส่วนของจำนวนผู้สูงอายุในประเทศกับจำนวนธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ พบว่า ยังคงขาดแคลนและโตไม่ทันตามความต้องการของตลาด”
นอกจากนี้ ยังเป็นโอกาสสร้างรายได้เข้าประเทศ เพราะชาวต่างชาติมักจะเดินทางเข้ามาใช้ชีวิตช่วงบั้นปลายในไทย เนื่องจากไทยมีความพร้อมและมีความได้เปรียบหลายด้าน เช่น มีหัวใจรักบริการ ค่าใช้จ่ายมีความสมเหตุผล มีสถานบริการทางการแพทย์และสถานบริการสุขภาพที่ครบครัน เป็นต้น ขณะเดียวกัน ยังมีธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องอีกมาก เช่น บริการออกแบบที่พักอาศัย การท่องเที่ยว บริการความงาม โรงพยาบาล ประกันสุขภาพ ประกันชีวิต โรงเรียนสอนบุคลากรดูแลผู้สูงวัย การค้าออนไลน์ การทำธุรกรรมออนไลน์ และการบริการหลังความตาย เป็นต้น ซึ่งการเติบโตของธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ จึงเป็นการขยายโอกาสทางธุรกิจให้แก่ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องด้วย
