วีซ่า ขอเป็นโซ่ข้อกลาง ช่วยผู้ซื้อ-ผู้ขายสินออนไลน์ เปิดรับชำระเงินผ่านระบบดิจิทัล

  • เผยผู้บริโภคในประเทศไทยกว่า 34 ล้านคน
  • ซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ มูลค่าตลาดรวม137,000 ล้านบาท
  • ชู“Everyone Speaks Visa” ช่วยพลิกฟื้นธุรกิจไทยให้เติบโตต่อ

นายสุริพงษ์ ตันติยานนท์ ผู้จัดการวีซ่า ประจำประเทศไทย กล่าวว่า จากผลสำรวจที่จัดทำขึ้นในประเทศไทยโดย วีซ่าพบว่า มากกว่าครึ่งของผู้บริโภคชาวไทย (54 เปอร์เซ็นต์) ระบุว่ามีประสบการณ์ที่ดีในการช้อปปิ้งออนไลน์มากกว่าไปซื้อที่ร้านค้าโดยตรง นอกจากนี้ 67 เปอร์เซ็นต์ของผู้บริโภคชาวไทยที่ตอบแบบสำรวจตั้งใจที่จะหันมาจับจ่ายผ่านช่องทางอีคอมเมิร์ซมากขึ้นในอนาคต ในขณะเดียวกัน 7 ใน 10 (69 เปอร์เซ็นต์) ของคนไทยคิดว่าจะไม่กลับไปใช้เงินสด ถึงแม้ว่าสถานการณ์จะดีขึ้น โดยจะใช้บัตรเครดิต บัตรเดบิต และแอปพลิเคชั่นการชำระเงินบนสมาร์ทโฟนแทน

ในปีที่ผ่านมาผู้บริโภคในประเทศไทยกว่า 34 ล้านคน ได้ทำการซื้อสินค้าอุปโภคบริโภคผ่านช่องทางออนไลน์ โดยมีมูลค่าตลาดรวมประมาณ 137,000 ล้านบาท วิธีการชำระเงินที่ได้ความนิยมมากที่สุดได้แก่ บัตรเครดิต (32 เปอร์เซ็นต์) ตามด้วย อี-วอลเล็ต (25 เปอร์เซ็นต์) การโอนเงินผ่านธนาคาร (20 เปอร์เซ็นต์) เงินสด (12 เปอร์เซ็นต์) และอื่นๆ (11 เปอร์เซ็นต์)

โดยตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป พ่อค้าและแม่ค้าออนไลน์สามารถเข้าร่วมโครงการได้ง่ายๆ ด้วยการสมัครผ่านเว็บไซต์ www.visa.co.th  โดยสามารถศึกษารายละเอียดและเลือกพันธมิตรผู้ให้บริการการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอลได้ด้วยตนเอง เมื่อนำส่งเอกสารที่จำเป็นครบถ้วนแล้ว ผู้ขายสามารถเริ่มรับชำระเงินผ่านระบบดิจิทัล ของวีซ่าได้ภายในหนึ่งวัน  นอกจากนี้วีซ่ายังได้เปิดตัวแคมเปญทางการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ เพื่อให้ความรู้และสร้างความเข้าใจถึงประโยชน์ของการรับชำระเงินผ่านวีซ่า ที่มีความสะดวก รวดเร็ว และปลอดภัยสำหรับผู้ซื้อและผู้ขาย ทั้งนี้ เพื่อส่งเสริมให้ผู้ขายหันมาใช้การรับชำระเงินผ่านระบบดิจิทัลมากขึ้น วีซ่าได้เตรียมมอบรางวัล 5,000 บาท สำหรับผู้ค้ารายใหม่ 20 อันดับแรกที่มีจำนวนธุรกรรมมากที่สุดในแต่ละเดือน โดยโครงการนี้จะสิ้นสุดในเดือนธันวาคม 2563

อย่างไรก็ตามถึงแม้ว่าความท้าทายในวันนี้อาจเป็นเรื่องใหม่สำหรับพวกเราทุกคน แต่วีซ่ามีประสบการณ์ในการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคสำหรับผู้ซื้อและผู้ขายมานานกว่า 60 ปีทั่วโลก  ณ วันนี้ วีซ่าและพันธมิตรทางธุรกิจของเราต่างมุ่งเน้นไปที่การช่วยให้เศรษฐกิจของประเทศไทยฟื้นตัว และช่วยให้ผู้ค้ารายย่อยสามารถก้าวผ่านความท้าทายเหล่านี้ไปด้วยกัน เพราะพวกเขาเหล่านั้นเปรียบเสมือนรากฐานของเศรษฐกิจไทย เราเชื่อมั่นในพลังของเครือข่ายวีซ่า และรู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้เปิดตัวอีกหนึ่งโครงการดีๆ อย่าง “Everyone Speaks Visa” ที่จะเป็นอีกหนึ่งแรงในการช่วยพลิกให้ธุรกิจไทยฟื้นฟูและเติบโตต่อไป

“ในช่วงเวลานี้ที่ทั้งระบบอีโคซิสเท็มและพฤติกรรมของผู้บริโภคกำลังปรับตัวเข้าสู่ “นิวนอร์มอล” นั่นคือเหตุผลว่าทำไมเราจึงได้ใช้ประโยชน์จากเครือข่าย ร่วมมือกับบริษัทฟินเทคชั้นนำในประเทศไทย พัฒนาโครงการยื่นมือเข้าช่วยกลุ่มผู้ค้าเหล่านี้ให้สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีการชำระเงินในรูปแบบดิจิตอล ที่สะดวก รวดเร็ว และปลอดภัย ซึ่งในระหว่าง 22 มีนาคม ถึง 4 เมษายนที่ผ่านมาในภูมิภาคเอเชียแปซิฟิก ร้านค้าออนไลน์มีออเดอร์ผ่านเว็บไซต์โตขึ้นถึง 23 เปอร์เซ็นต์ปีต่อปี และในช่วงเวลาเดียวกัน ร้านค้าที่มีหน้าร้านก็มียอดการสั่งซื้อในรูปแบบออนไลน์เพิ่มขึ้นถึง 82 เปอร์เซ็นต์ โดยมีผลจากการปิดตัวของร้านค้า สต็อกสินค้าในร้านมีจำกัด และการสั่งซื้อสินค้าจากทางบ้านที่เพิ่มมากขึ้น”