- นักลงทุนเทขายหุ้น หลังจีนรายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อพุ่งเกือบ 15,000 คนในวันเดียว
- นักวิเคราะห์ชี้ยอดจองตั๋วลดคนภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกไม่เดินทาง
- หุ้นเทสลาร่วงหลังบริษัทเสนอแผนเพิ่มทุน 2,000 ล้านเหรียญสหรัฐ
เมื่อเวลาประมาณ 22.00 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 29,354.67 จุด ลดลง196.75 จุด หรือ -0.67% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 9,664.52 จุด ลดลง 61.45 จุด หรือ-0.63% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 3,369.85 จุด ติดลบ 9.60 จุด หรือ-0.28%
นักลงทุนวิตกกับจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เพิ่มสูงขึ้น หลังจากคณะกรรมการสุขภาพแห่งชาติของจีน (NHC) แถลงในวันนี้ว่า จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รายใหม่เฉพาะในมณฑลหูเป่ยที่เดียวนั้น เพิ่มขึ้น 14,840 ราย สู่ระดับ 48,206 ราย ซึ่งเป็นการเพิ่มขึ้นมากที่สุดนับตั้งแต่มีการรายงานข้อมูล ส่วนจำนวนผู้เสียชีวิตในมณฑลหูเป่ยเพิ่มขึ้น 242 ราย สู่ระดับ 1,310 ราย
ขณะที่ผลกระทบต่อเศรษฐกิจจากไวรัสนี้เริ่มเห็นชัดขึ้น โดย ForwardKeys ซึ่งเป็นบริษัทวิเคราะห์ด้านการเดินทาง เปิดเผยว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 กำลังส่งผลกระทบต่ออุปสงค์ด้านการเดินทางทั่วภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก
โดยการจองตั๋วเดินทางขาออกของภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิกลดลง 10.5% ในเดือนมี.ค.และเม.ย. โดยไม่รวมการเดินทางไปและกลับจากจีนและฮ่องกง
ทั้งนี้ภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงเหนือได้รับผลกระทบมากที่สุด โดยการจองตั๋วเดินทางขาออกของภูมิภาคดังกล่าวลดลง 17.1% ในเดือนมี.ค.และเม.ย.
GSMA ผู้จัดงาน Mobile World Congress ประจำปี 2563 ซึ่งเป็นงานแสดงสินค้าเทคโนโลยีไร้สายที่ใหญ่ที่สุดของโลก ประกาศยกเลิกการจัดงานดังกล่าว เนื่องจากมีความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จากเดิมที่มีกำหนดจัดขึ้นในวันที่ 24-27 ก.พ.ที่เมืองบาร์เซโลนา ประเทศสเปน
ราคาหุ้นของบริษัทเทสลา อิงค์ ดิ่งลง หลังบริษัทประกาศแผนเสนอขายหุ้นสามัญวงเงิน 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อเพิ่มความแข็งแกร่งต่องบดุลบัญชี รวมทั้งใช้จ่ายในวัตถุประสงค์ทั่วไปของบริษัท โดยนายอีลอน มัสก์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารเทสลา กล่าวว่า เขาจะซื้อหุ้นสามัญดังกล่าวคิดเป็นมูลค่า 10 ล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตาม บริษัทเป๊ปซี่โค มีกำไรและรายได้ในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ เช่นเดียวกัน บริษัทคราฟท์ ไฮนซ์ ซึ่งเป็นผู้ผลิตอาหารรายใหญ่ของสหรัฐ เปิดเผยตัวเลขกำไรในไตรมาส 4 สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์
สำหรับตัวเลขเศรษฐกิจ กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า จำนวนชาวอเมริกันที่ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกเพิ่มขึ้น 2,000 ราย สู่ระดับ 205,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 210,000 ราย
นอกจากนั้น จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 1 ก.พ. มีจำนวนลดลง 61,000 ราย สู่ระดับ 1.70 ล้านราย
