สถานการณ์การแพร่ระบาดในสหรัฐฯ กลับมาวิกฤตอีกครั้งมีจำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 ตัวเลขล่าสุดเมื่อวันที่มิถุนายน เว็บไซต์ www.worldometers.ionfo รายงานตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่เพียงวันเดียวถึง 44,124 ราย เสียชีวิต 588 ราย ทำให้มีตัวเลขสะสมกว่า 2.45 ล้านราย เสียชีวิตกว่า 1.27 แสนราย
หลายๆ รัฐได้มีผู้ติดเชื้อใหม่สูงสุด สร้างความกังวลให้กับนักลงทุนจำนวนมากและทำให้หลายๆ รัฐกลับมาใช้มาตรการคุมเข้มอีกครั้ง ส่วนรัฐที่พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงสุด ก็รัฐฟลอริดา เท็กซัส แคลิฟอร์เนีย และอาริโซนา
รัฐเท็กซัสได้ออกแถลงการณ์ว่า รัฐเทกซัสจะระงับการเปิดเศรษฐกิจชั่วคราวเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดจนกว่าจะสามารถเข้าสู่ระยะใหม่ของการเปิดเศรษฐกิจได้อย่างปลอดภัย
สำหรับเมืองไมอามี รัฐฟลอริดา ประกาศบังคับให้ประชาชนต้องสวมใส่หน้ากากเมื่ออยู่ในที่สาธารณะ หากฝ่าฝืนจะถูกปรับทันทีสูงสุด 500 ดอลลลาร์ โดยช่วงแรกเจ้าหน้าที่จะทำการตักเตือนก่อน สำหรับผู้ที่ทำงานในเมืองทางการจะจัดหาหน้ากากฟรีให้
ด้าน “เฮนี่ แมคมาสเตอร์” ผู้ว่ารัฐเซาท์แคโรไลนา กล่าวว่าเขาจะขยายสถานการณ์ฉุกเฉินเป็นเวลาอย่างน้อยอีกสองสัปดาห์ ซึ่งจะยังคง จำกัด ไนท์คลับคอนเสิร์ตและการแข่งขันกีฬา ที่เกี่ยวข้องกับฝูงชนทั้งหมด และเรียกร้องให้ประชาชนสวมใส่หน้าหาก และกล่าวว่า “การบังคับใส่หน้ากากมีปัญหา”
ด้าน ABC News รายงานข่าวถึงการยืนยันจากเจ้าหน้าที่ที่ปรึกษาเกี่ยวการเจรจาต่อรองของสหภาพยุโรปหรืออียูว่า ทางอียูจำนวน 27 ประเทศได้แบนห้ามชาวสหรัฐเดินทางเข้าประเทศเนื่องจากเป็นประเทศที่มีการแพร่ระบาดจำนวนสูงมาก โดยทางอียูจะทำการประกาศรายชื่อประเทศที่จะอนุญาตให้เดินทางเข้าไปในประเทศตนได้ในอีกไม่กี่วันข้างหน้า