วิกฤติน้ำมันปาล์มคลี่คลายใน 1-2 เดือนแต่ราคายังทรงตัวสูง

Palm oil in bottle pattern factory warehouse store food background

.หลังอินโดนีเซียกลับมาส่งออกแบบกำหนดปริมาณ

.สนค.ชี้เป็นโอกาสไทยส่งออกโกยรายได้เข้าประเทศ

.เหตุมีสต๊อก 2 แสนตันเพียงพอบริโภคและเหลือส่งออก

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยว่า สนค.ได้ติดตามและประเมินสถานการณ์หลังอินโดนีเซียยกเลิกคำสั่งห้ามส่งออกน้ำมันปาล์ม มีผลตั้งแต่วันที่ 23 พ.ค.65 ซึ่งพบว่า จะทำให้วิกฤติน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลกคลี่คลายลงได้ในอีก 1-2 เดือนข้างหน้า เพราะจะมีปริมาณน้ำมันปาล์มดิบจากอินโดนีเซียเข้าสู่ตลาดมากขึ้น แต่ราคาน่าจะยังไม่ลดต่ำลงทันที หรือต่ำลงมาก น่าจะยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงต่อเนื่อง  เพราะรัฐบาลอินโดนีเซียยังกำหนดเพดานการส่งออก เพื่อป้องกันการขาดแคลนในประเทศ

“ปัจจุบัน อินโดนีเซียเก็บสต็อกน้ำมันปาล์มประมาณ 5 ล้านตัน ขณะที่ความสามารถในการกักเก็บอยู่ที่ 6-7 ล้านตัน ซึ่งจะเต็มความจุภายในสิ้นเดือนมิ.ย.นี้ จึงจำเป็นต้องกลับมาส่งออกอีกครั้ง ไม่เช่นนั้นจะไม่สามารถซื้อผลผลิตจากเกษตรกร อาจทำให้ผลผลิตล้นตลาด  และราคาตกต่ำได้ อีกทั้งการเก็บสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบเป็นเวลานาน จะทำให้เสื่อมคุณภาพได้”

สำหรับสถานการณ์ตึงตัวของปริมาณน้ำมันปาล์มดิบในตลาดโลก นับเป็นโอกาสส่งออกน้ำมันปาล์มดิบของไทยได้ เพราะจากข้อมูลของกรมการค้าภายใน พบว่า ณ วันที่ 31 พ.ค.65 ไทยมีสต๊อกน้ำมันปาล์มดิบต่อเดือนอยู่ที่ 190,000-200,000 ตัน ซึ่งเพียงพอต่อความต้องการในประเทศแล้ว และสามารถนำไปส่งออกสร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและประเทศได้ โดยตลาดส่งออกหลักของไทย คือ อินเดีย มีมูลค่าส่งออกในสัดส่วน 74.7% ของการส่งออกน้ำมันปาล์มดิบของไทยไปโลกในไตรมาสแรก ปี 65 ส่วนราคาน้ำมันปาล์มดิบของไทย อยู่ที่ลิตรละ 54-55 บาท ใกล้เคียงกับราคาของมาเลเซียที่ลิตรละ 55-56 บาท

นายรณรงค์ กล่าวต่อถึงสถานการณ์ในประเทศว่า เดือนพ.ค.65 ราคาน้ำมันปาล์มขวดเฉลี่ยอยู่ที่ขวดละ 68 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยปี 64 ที่ขวดละ 54-55 บาท ส่วนราคาผลปาล์มสดในช่วงเดือนม.ค.-เม.ย.65 อยู่ที่เฉลี่ยกก.ละ 9.60 บาท เพิ่มขึ้นจากราคาเฉลี่ยปี 64 ที่กก.ละ 6.5 บาท อย่างไรก็ตาม นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเร่งเจรจาผู้มีส่วนได้ส่วนเสียทั้งระบบ ทั้งเกษตรกร โรงกลั่น ผู้ค้า พร้อมทำความเข้าใจกับผู้บริโภค เพื่อให้เกิดความสมดุลของราคาน้ำมันปาล์มขวด และทำให้ผู้บริโภคได้รับความเดือดร้อนน้อยที่สุด ขณะที่ชาวสวนปาล์มยังขายได้ราคาดีที่สุด รวมถึงเพื่อสร้างความมั่นใจว่าจะไม่เกิดปัญหาขาดแคลนในประเทศ