- สอดคล้องกับผลปาล์มสด–น้ำมันปาล์มดิบที่ลดลง
- “จุรินทร์”บี้ผู้ผลิต–ห้างลดราคาต่อเนื่องตามราคาวัตถุดิบ
- สั่งพาณิชย์จังหวัด เกาะติดสถานการณ์สินค้าใกล้ชิด
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยภายหลังตรวจติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าที่ห้างแม็คโคร สาขานครอินทร์ ว่า หลังจากได้สั่งการให้กรมการค้าภายใน เจรจากับผู้ประกอบการทั้งหมดที่เกี่ยวข้องรวมทั้งห้างต่างๆ ที่เป็นช่องทางการจำหน่าย เพื่อให้ปรับลดราคาขายน้ำมันปาล์มขวดลงมาให้สอดคล้องกับต้นทุนที่ลดลงนั้น ล่าสุด ตั้งแต่วันที่ 14 ก.ค.เป็นต้นมา ราคาน้ำมันปาล์มขวดได้ปรับลงมาอยู่ที่ต่ำสุดขวดละ 62 บาท ส่วนแบบถุงเหลือถุงละ 61 บาท ต่ำกว่าราคาตลาดก่อนหน้านี้ 5-6 บาท และสัปดาห์หน้า ได้สั่งการไปแล้ว ให้กรมการค้าภายในเจรจากับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เพื่อใหทยอยปรับลดลงให้สอดคล้องกับต้นทุนมากขึ้น
“ได้ให้นโยบายกรมการค้าภายใน ในการกำกับดูแลราคาสินค้า หากต้นทุนสูงขึ้น จะพิจารณาเป็นกรณีตามความเหมาะสมว่าราคาขายจะต้องดำเนินการอย่างไร ให้ผู้บริโภคเดือดร้อนน้อยที่สุด แต่เมื่อต้นทุนลด ก็ต้องปรับลดราคาลงด้วย อย่างน้ำมันปาล์มขวด เมื่อราคาผลปาล์มอ่อนตัวลง แต่ราคาน้ำมันปาล์มขวดยังปรับลดลงมาไม่ทัน เพราะยังมีสต๊อกเก่าที่ผลิตในช่วงที่ผลปาล์มขึ้นไปสูงที่กิโลกรัม (กก.) ละ 9-12 บาท ก็ต้องเห็นใจผู้ประกอบการระบายสต๊อกเก่าให้หมดก่อน แต่เห็นว่าแม้สต๊อกเก่ายังไม่หมด ก็ควรได้ทยอยลดราคาลงมา เพื่อลดภาระให้กับผู้บริโภค และเมื่อเป็นสต๊อกใหม่ ที่ราคาต้นทุนลดลง ก็ต้องทยอยลดราคาอีกขั้นหนึ่ง”
อย่างไรก็ตาม จะบริหารจัดการปาล์มอย่างเหมาะสม และเกิดความสมดุลให้ทุกฝ่ายอยู่ร่วมกันได้ ทั้งการดูแลราคาผลปาล์มสดให้กับชาวสวนปาล์ม ผู้ประกอบการ และผู้บริโภค ซึ่งในการดูแลชาวสวนปาล์ม ไม่ให้ถูกกดราคารับซื้อ ได้สั่งการให้กรมการค้าภายในเข้าไปตรวจเครื่องชั่งปาล์มที่ลานและจุดรับซื้อผลปาล์ม พบว่า มีการกระทำความผิด 47 ราย มีการดำเนินคดีแล้ว โดย 33 รายลงโทษปรับ และ 10 ราย ปิดเครื่องหมายห้ามใช้เครื่องชั่งที่มีการดัดแปลงให้เกิดความคลาดเคลื่อน ที่เป็นการเอาเปรียบเกษตรกร จนกว่าจะมีการแก้ไข และที่สำคัญ 4 ราย มีการดำเนินคดีอาญา
นอกจากนี้ ยังได้สั่งการให้พาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าทุกประเภทที่จำเป็นต่อการครองชีพให้สอดคล้องกับราคาที่แจ้งต้นทุนไว้ และตรวจสอบการปิดป้ายแสดงราคา ถ้าขายเกินราคาป้ายที่ปิดไว้ ก็ถือว่ามีความผิด ถ้าเข้าข่ายค้ากำไรเกินควร ก็ให้ดำเนินคดี ช่วงที่ผ่านมา ได้ดำเนินคดีจำนวนมาก และกระทรวงพาณิชย์ไม่ได้นิ่งนอนใจ หากว่าผู้บริโภคพบเห็นที่ไหน ใช้ดุลยพินิจแล้วคิดว่าค้ากำไรเกินควร ขายแพงเกินปกติ แพงกว่าป้ายที่ปิด ให้แจ้ง 1569 ได้ กระทรวงพาณิชย์จะไปดำเนินการทันที
