- วัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ผลิตโดยบริษัทสยามไบโอไซเอนซ์ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพต่างๆจากห้องปฏิบัติการวิเคราะห์ของแอสตร้าเซนเนก้าแล้ว
- แอสตร้าเซนเนก้ามีมาตรฐานการตรวจสอบคุณภาพและความปลอดภัยของวัคซีนที่ผลิตจากเครือข่ายทั่วโลก เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนที่ผลิตจากทุกแหล่งการผลิตนั้นมีคุณภาพสูงตามมาตรฐานสากล
แอสตร้าเซนเนก้า เผยผลการตรวจสอบคุณภาพตัวอย่างวัคซีนป้องกันโควิด-19 ที่ส่งไปตรวจสอบในห้องปฏิบัติการในยุโรปและสหรัฐอเมริกาผ่านเกณฑ์เรียบร้อยแล้ว
การรักษาคุณภาพของวัคซีนให้ได้มาตรฐาน
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าผ่านการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยทั้งในกระบวนการผลิตและการจัดส่ง โดยมีการตรวจสอบมาตรฐานคุณภาพวัคซีนในแต่ละรุ่นการผลิตรวมกันมากกว่า 60 ครั้ง นับตั้งแต่เริ่มกระบวนการผลิตไปจนถึงการฉีดวัคซีน และมีการประกันคุณภาพอย่างครบถ้วนทุกขั้นตอน แอสตร้าเซนเนก้าได้สร้างเครือข่ายการวิเคราะห์คุณภาพและความปลอดภัยของวัคซีนป้องกันโควิด-19 เพื่อให้มั่นใจว่าวัคซีนที่ผลิตจากทุกแหล่งการผลิตของแอสตร้าเซนเนก้านั้นมีคุณภาพดีสม่ำเสมอตามมาตรฐานสากล
นอกจากนี้ แอสตร้าเซนเนก้ายังทำงานอย่างใกล้ชิดกับหน่วยงานด้านสาธารณสุขในประเทศไทย เช่น สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) และกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์ กระทรวงสาธารณสุข เพื่อตรวจสอบและควบคุมคุณภาพของวัคซีนให้ตรงตามมาตรฐานและข้อกำหนดของประเทศไทย
นายเจมส์ กล่าวเสริมว่า “เป้าหมายของแอสตร้าเซนเนก้าคือการส่งมอบวัคซีนที่มีมาตรฐานคุณภาพและความปลอดภัยให้กับรัฐบาลไทยโดยเร็วที่สุด เรากำลังทำงานร่วมกับรัฐบาลอย่างใกล้ชิดเพื่อทยอยส่งมอบวัคซีนให้แก่ประเทศไทย บริษัทฯตระหนักดีถึงความกังวลใจและคำถามต่างๆ ที่เกิดขึ้นเกี่ยวกับความปลอดภัยและความพร้อมในการจัดหาวัคซีน เพื่อช่วยเหลือประชาชนชาวไทยและประชากรในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ให้สามารถต่อสู้กับวิกฤตการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ที่เลวร้ายนี้ เรามีความมุ่งมั่นในการดำเนินธุรกิจตามปณิธานของบริษัทในการนำความเชี่ยวชาญด้านวิทยาศาสตร์มาใช้ทำประโยชน์เพื่อสังคม โดยแอสตร้าเซนเนก้าจะทำงานร่วมกับทุกภาคส่วนในการผลิตและกระจายวัคซีน เพื่อให้ประชาชนสามารถเข้าถึงวัคซีนได้อย่างเท่าเทียมและทั่วถึงในช่วงเวลาที่กำลังเผชิญวิกฤตการแพร่ระบาดนี้ โดยไม่หวังผลกำไร”
การเข้าถึงวัคซีนและประสิทธิผล
วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าได้รับอนุมัติให้ใช้ในกรณีฉุกเฉินในกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ซึ่งรวมถึงองค์การอนามัยโลก และการได้รับอนุมัติทะเบียนโดยองค์การอนามัยโลกนี้จะช่วยเร่งการเข้าถึงวัคซีนโดยผ่านกลไกการจัดซื้อและจัดสรรวัคซีนของโครงการโคแวกซ์สำหรับ 142 ประเทศทั่วโลก
ผลการทดลองทางคลินิกในผู้เข้าร่วมการทดลอง 60,000 คนและข้อมูลการใช้วัคซีนป้องกันโควิด-19 ของแอสตร้าเซนเนก้าในประชากรหลายสิบล้านคนทั่วโลกแสดงให้เห็นว่า ผู้รับวัคซีนสามารถทนต่อผลข้างเคียงของวัคซีนได้ดีและวัคซีนยังช่วยป้องกันอาการเจ็บป่วยจากโรคโควิด-19 ในทุกระดับความรุนแรง
หน่วยงานกำกับดูแลด้านยาและผลิตภัณฑ์สุขภาพในสหราชอาณาจักร สหภาพยุโรป รวมไปถึงองค์การอนามัยโลกให้ข้อสรุปว่าประโยชน์ที่ได้รับจากวัคซีนป้องกันโรคโควิด-19 นั้นมีมากกว่าความเสี่ยงที่อาจเกิดอาการไม่พึงประสงค์