“วราวุธ”สั่งฟันนายทุนบุกรุกพื้นที่ป่าด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรี

นายวราวุธ ศิลปอาชา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เปิดเผยว่า สั่งการให้อธิบดีกรมป่าไม้ตรวจสอบกรณีที่ได้รับแจ้งเบาะแสจากประชาชนว่า มีนายทุนลักลอบขุดดินจากพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติไปถมบริเวณอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรีเพื่อทำเป็นรีสอร์ต และแหล่งท่องเที่ยวบริเวณรอบอ่างเก็บน้ำลำตะเพิน

ทั้งนี้อธิบดีกรมป่าไม้ให้ทีมพยัคฆ์ไพร ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจบก.ปทส. กอ.รมน. สุพรรณบุรี และอำเภอด่านช้างพร้อมเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องตรวจสอบซึ่งได้รับรายงานว่า พื้นที่ดังกล่าวอยู่ในเขตป่าสงวนแห่งชาติป่าองค์พระ ป่าเขาพุระกำ และป่าเขาห้วยพลูท้องที่ตำบลองค์พระ อำเภอด่านช้าง จังหวัดสุพรรณบุรีจริงจึงกำชับให้กรมป่าไม้ดำเนินคดีฐานบุกรุก ครอบครองพื้นที่ป่าอย่างเด็ดขาด 

นายวราวุธ กล่าวต่อว่า การเข้าตรวจสอบจนนำมาสู่การจับกุมเกิดจากการมีส่วนร่วมของประชาชนที่แจ้งเบาะแสเข้ามาที่ผ่านมาสั่งการให้กรมป่าไม้ได้แก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าโดยทำงานแบบบูรณาการร่วมกับหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง พร้อมทั้งเสริมสร้างเครือข่ายในระดับภาคประชาชนให้เป็น “เครือข่ายพิทักษ์ป่า” เพื่อช่วยติดตามตรวจสอบและปราบปรามการกระทำผิดในพื้นที่ป่าสงวนแห่งชาติ ป่าอนุรักษ์ และป่าอื่นๆ โดยกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมซึ่งเป็นหน่วยงานหลักในการดูแล รักษาอนุรักษ์ทรัพยากรป่าไม้ของประเทศจะป้องกันและปราบปรามการลักลอบตัดไม้ทำลายป่าและแก้ไขปัญหารุกป่าอย่างเข้มข้นมากยิ่งขึ้น

ด้านนายสุรชัย อจลบุญ อธิบดีกรมป่าไม้กล่าวว่า จากการตรวจสอบพบการบุกรุก 3 จุดดังนี้ จุดที่ 1 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ครอบครองโดยนางสาวจันทร์เพ็ญ พงษ์สุพรรณ เนื้อที่ 6 ไร่ 1 งาน 79 ตารางวา (ยังไม่ได้รับการอนุญาต) พบว่า มีการถมที่ขยายเข้าไปในเขตที่กรมชลประทานขอใช้ประโยชน์พื้นที่โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพินประมาณ 3 ไร่ 2 งาน 86 ตารางวา 

ส่วนจุดที่ 2 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ครอบครองโดยนางสาววิจิตรา สำลีลำ เนื้อที่ 4 ไร่ 1 งาน 51 ตารางวา(ยังไม่ได้รับอนุญาต) พบว่า มีการถมดินยื่นเข้าไปในพื้นในเขตกรมชลประทานขอใช้ประโยชน์โครงการอ่างเก็บน้ำลำตะเพินประมาณ 2 ไร่ 1 งาน 84 ตารางวา 

นอกจากนั้นในจุดที่ 3 ตรวจพบบริเวณแปลงสำรวจ คทช. ครอบครองโดยนางสาววิมลรัตน์ ด้วงทอง เนื้อที่ 0 ไร่ 3 งาน 53 ตารางวา (ยังไม่ได้รับอนุญาต) ซึ่งพื้นที่มีลักษณะเป็นเนินเขา ตรวจพบมีการขุดดินลูกรัง

นายสุรชัย กล่าวต่อว่า ทั้งนี้ คณะเจ้าหน้าที่พิจารณาเห็นว่า เป็นความผิดตามกฎหมายว่าด้วยการป่าไม้ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 มาตรา54 และมาตรา 72 ทวิ ฐานบุกรุกแผ้วถางหรือกระทำด้วยประการใดฯ อันเป็นการทำลายป่า ยึดถือครอบครองป่าเพื่อตนเองหรือผู้อื่นโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ พ.ร.บ.ป่าสงวนแห่งชาติ พ.ศ. 2507 และที่แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 14 และมาตรา 31 ฐานบุกรุกแผ้วถางยึดถือครอบครองทำประโยชน์ หรือกระทำประการใดฯ อันเป็นการเสื่อมเสียแก่สภาพป่าสงวนแห่งชาติโดยไม่ได้รับอนุญาตจากพนักงานเจ้าหน้าที่ จึงได้รวบรวมเอกสารหลักฐานส่งพนักงานสอบสวน สภ.อ.ด่านช้างเพื่อดำเนินคดีผู้บุกรุกทั้ง 3 ราย นอกจากนี้กรมป่าไม้จะถอดถอนรายชื่อทั้ง 3 ราย ออกจากบัญชีสำรวจการถือครองโครงการ คทช. อีกด้วย