ลุ้น! คณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐ ขยับเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพี

  • เหตุเศรษฐกิจขยายตัวไม่เป็นไปตามคาดการณ์
  • เตรียมการไว้รองรับออกพ.ร.ก.เงินกู้ก่อนใหม
  • เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจไตรมาสสุดท้ายและปีหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(20ก.ย.)​ จะมีการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงินการคลังของรัฐที่มี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็น เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์การเติบโตของเศรษฐกิจไทย โดยปัจจุบันเพดานหนี้สาธารณะอยู่ที่ 58.88% ของจีดีพี ถือว่าใกล้เต็มเพดานที่กำหนดไว้แล้วที่ 60%

โดยปัจจัยที่จะนำพิจารณาครั้งนี้ ได้แก่ อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศไทย แผนการใช้จ่ายเงินตามแผนการกู้เงิน ตามการออกพ.ร.ก.เงินกู้ 1 ล้านล้านบาท และพ.ร.ก.เพิ่มเติมอีก 500,000 ล้านบาท ซึ่งทำให้เพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีเกินเพดานที่กำหนดไว้หรือปริ่มๆใกล้จะเกิน

ทั้งนี้ตามหลักการแล้วไม่สามารถปล่อยให้สัดส่วนหนี้สาธารณะต่อจีดีพี เกินเพดานที่กำหนดไว้ได้ เพราะจะไม่เป็นผลดีต่อเศรษฐกิจและวินัยการเงินการคลังของประเทศ ดังนั้นกระทรวงการคลัง จึงจำเป็นต้องปรับเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีใหม่

ส่วนจะขยับเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพี เป็นเท่าใดนั้น ต้องรอการประชุมครั้งนี้ ในเบื้องต้นมีการพูดถึงตัวเลขาเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีที่ระดับ
65% -70% เพื่อเตรียมการออกพ.ร.ก.กู้เงินเพิ่มเติมอีกครั้ง เพื่อนำมากระตุ้นเศรษฐกิจในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีนี้และปีหน้า หลังสถานการโควิดคลี่คลาย

อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาสัดส่วนเพดานหนี้สาธารณะต่อจีดีพีของไทยแล้ว ถือว่ายังมีช่องว่างสามารถขยายเพดานเพิ่มเติมได้อีก และเมื่อเทียบต่างประเทศเพดานหนี้สาธารณะของไทยถือว่ายังอยู่ในอัตราที่ต่ำ เช่น ญี่ปุ่น มีหนี้สาธารณะต่อจีดีพีสูง 100% และอีกหลายประเทศก็สูงกว่าประเทศไทย เพราะวิกฤติโควิดกระทบเศรษฐกิจ ทำให้หลายประเทศต้องปรับเพดานหนี้สาธารณะให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบันมากที่สุด