ลุ้น“น้ำตาล”พ้นวิกฤติตอบสนอง

  • น้ำตาลยังอยู่ ICU ดูแลใกล้ชิด
  • หมอชี้หาสาเหตุไม่เจอ พบน้อยมาก
  • รอสมองยุบตัว รู้จุดเลือดออก

หลังจากทุกคนได้ส่งกำลังใจ และเฝ้าติดตามอาการของ น้ำตาล- บุตรศรัณย์ ทองชิว ที่ถูกหามส่งรพ.ด้วยอาการเลือดออกปาก ออกจมูกล่าสุด วันนี้ 13 มิถุนายนทางทีมแพทย์เจ้าของไข้ ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ ศิริราชพยาบาลและ รศ.นพ.ปรัญญา สากิยลักษณ์ สาขาวิชาศัลยศาสตร์หัวใจและทรวงอก แพทย์เจ้าของไข้พร้อมด้วยพี่สาวและพี่เขย ร่วมกันออกแถลงงข่าวเกี่ยวกับอาการของน้ำตาล ต่อสื่อมวลชน

โดย ศ.ดร.นพ.ประสิทธิ์ แถลงว่า เลือดที่ออกมาทำให้ไปอุดตันบริเวณทางเดินหายใจ ทำให้หัวใจหยุดเต้น ในเวลานั้นเราจำเป็นต้องใส่เครื่องช่วยพยุงการหายใจ เพื่อจะได้เคลื่อนย้ายร่างกายมายัง รพ.ศิริราชได้ เมื่อวานคนไข้ยังมีสภาพไม่พร้อมพอจะไปตรวจอะไรเพิ่มเติม แต่เมื่อวานค่ำๆ สัญญาณชีพต่างๆ ดีขึ้น เริ่มคงที่ เมื่อเช้าเลยพาน้ำตาลไปเอ็กซเรย์ทร่ปอดและสมอง

จากผลการตรวจสรุปว่าสมองมีอาการบวมค่อนข้างมาก แต่ไม่มีเลือดในสมองออกให้เห็น ตอนนี้นำตัวมาอยู่ใยห้องไอซียูและทยอยแก้ไขความผิดปกติอยู่

อย่างไรก็ตามเลือดที่ออกยังไม่เห็น เนื่องจากเราไม่รู้สาเหตุว่าเลือดออกเพราะอะไรจึงต้องหาสาเหตุอยู่ เมื่อไหร่ที่หัวใจหยุดเต้นมันจะมีการบวมน้ำ จากนั้นเราก็ค่อยๆ ประเมินแต่ต้องรอให้สมองยุบลงก่อน

ขณะนี้ได้รีบการติดต่อให้ใส่เครื่อง ECMO เครื่องช่วยพยุงการทำงานของหัวใจและปอด ปัญหาหลักมาจากปอด เพราะเลือดที่ไหลมาไปอุดที่หลอดลมสองข้าง จึงต้องใช้เครื่องแทนปอด ส่วนหัวใจใช้ยากระตุ้น

ตอนนี้เลือดมีภาวะความเป็นกรดสูงมาก เราจึงพิจารณาที่ต้องใส่เครื่องนี้เพื่อนำเลือดมาฟอก ซึ่งหลังจากใส่เครื่องเราก็มีความมั่นใจมากที่จะเคลื่อนย้ายคนไข้มาที่ศิริราชได้ พอย้ายมาถึงที่นี่เราก็เลยเริ่มทำการปรับยา 24 ชม.แรก ความดันยังขึ้นลงตลอดเวลา แต่พอเมื่อเช้านิ่งจึงได้ตรวจหาสาเหตุแต่ยังไม่พบ ร่างกายยังไม่ตอบสนองอะไร

โรคนี้เป็นสิ่งที่เจอน้อยมาก เจอไม่บ่อย เรายังไม่สามารถรู้ว่าเป็นโรคอะไร เราต้องรอสมองยุบตัวลง ผ่านพ้นระยะวิกฤตตอนนี้ไป เราก็จะรู้ว่าอะไรเป็นจุดที่เลือดออก ไม่ต้องผ่าตัดก็ได้ ถ้าเรารู้ว่าอยู่ตรงไหน แต่สภาพตอนนี้เราทำไม่ได้ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้มากนอกไอซียู ณ วันนี้ในเวลานี้เราไม่เห็นเลือดออกมาในท่อทางเดินหายใจ เราก็หวังว่าปอดจะกลับมาทำงาน ผมไม่อยากให้คาดการณ์ในเชิงบวกมากเกินไป แต่ก็ไม่อยากให้ลบ เราต้องเฝ้าระวัง 

ตอนนี้ต้องรอสมองยุบตัวลง ผ่านพ้นระยะวิกฤตตอนนี้ไป เราก็จะรู้ว่าอะไรเป็นจุดที่เลือดออก ไม่ต้องผ่าตัดก็ได้ ถ้าเรารู้ว่าอยู่ตรงไหน แต่สภาพตอนนี้เราทำไม่ได้ เพราะไม่สามารถทำอะไรได้มากนอนไอซียู วันนี้ในเวลานี้เราไม่เห็นเลือดออกมาในท่อทางเดินหายใจ เราก็หวังว่าปอดจะกลับมาทำงาน ผมไม่อยากให้คาดการณ์ในเชิงบวกมากเกินไป แต่ก็ไม่อยากให้ลบ เราต้องเฝ้าระวัง 

ส่วนเรื่องปอดแตกมีลมรั่วจากปอด คาดว่าน่าจะเกิดจากใส่ท่อหายใจ ทำให้ความดันในปอดสูงมาก เหมือนลูกโป่ง พอสูงมาก ๆ ก็แตก แต่เราพบไม่บ่อย ปอดแตกเป็นรูเล็ก ๆ ไม่ใช่ภาวะรุนแรงอะไร ใส่ท่อระบายก็ได้ มีการใช้เวลาในการปั๊มหัวใจ 30 นาที จนหัวใจกลับมาเต้นได้ เราก็ไม่สามารถบอกได้ว่าออกซิเจนเข้าไปมากน้อยแค่ไหน แต่ไม่ใช่หยุดหายใจไปตลอด 30 นาที