ลุยตรวจขนย้าย-ลักลอบนำเข้าหอม กระเทียม

  • หวั่นลักลอบนำเข้าฉุดราคาผลผลิตในประเทศดิ่ง
  • พาณิชย์จับมือศุลกากรคุมใบขนย้ายเรียลไทม์
  • ลั่นใครขนย้ายโดยไม่ขออนุญาตโทษหนักทั้งจำและปรับ

นายอุดม ศรีสมทรง รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยภายหลังตรวจเยี่ยมการขนย้ายสินค้าเกษตร ณ ท่าเรือแหลมฉบังว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ สั่งการให้ตรวจเข้มการขนย้ายสินค้าเกษตร โดยเฉพาะกระเทียมและหอมหัวใหญ่ที่นำเข้าจากต่างประเทศ เพื่อป้องกันการลักลอบขนย้าย และลักลอบนำเข้า เพื่อรักษาเสถียรภาพระบบตลาดสินค้าเกษตรภายในประเทศให้เกิดความเป็นธรรมและยกระดับรายได้ให้เกษตรกร เพราะขณะนี้ ผลผลิตหอมหัวใหญ่และกระเทียมของไทยเริ่มออกสู่ตลาด 

“เจ้าหน้าที่สายตรวจเฉพาะกิจ กรมการค้าภายใน สนธิกำลังร่วมกับเจ้าหน้าที่สำนักงานพาณิชย์จังหวัด สำนักงานชั่งตวงวัด ตำรวจทางหลวง ขนส่งทางบก กรมศุลกากรและการท่าเรือ ตรวจสอบการลักลอบขนย้ายสินค้าเกษตร หรือการขนย้ายที่ไม่ถูกต้องตามกฎหมายอย่างเข้มงวด และสุ่มตรวจสินค้าหลายช่องทาง เพื่อป้องกันไม่ให้ส่งผลกระทบต่อราคาผลผลิตของเกษตรกร และทำให้ผลผลิตราคาตกต่ำ โดยมุ่งเน้นพื้นที่ต้นทางการขนย้าย เช่น ท่าเรือแหลมฉบังเขตผ่านแดนประเทศเพื่อนบ้าน ซึ่งเป็นจุดผ่านขนย้ายสินค้าเกษตรและตรวจสอบปลายทางการขนย้ายในแหล่งการค้าที่สำคัญ”   

นอกจากนี้ กรมฯ ยังได้บูรณาการเชื่อมโยงและแลกเปลี่ยนข้อมูลใบขนสินค้าขาเข้ากับศุลกากรแบบเรียลไทม์ เพื่อประโยชน์ในการกำกับดูแลตรวจสอบ ควบคุมปริมาณการขนย้ายสินค้าเกษตรให้ถูกต้องตามปริมาณการนำเข้าของกรมศุลกากร ป้องกันการลักลอบนำเข้าสินค้าเกษตร ระหว่างหน่วยงานภาครัฐให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น และขอเน้นย้ำให้ผู้ประกอบการ ปฏิบัติตามกฎหมายอย่างเคร่งครัด หากมีการขนย้ายสินค้าเกษตร ต้องได้รับอนุญาตก่อนขนย้ายฝ่าฝืนต้องระวางโทษสูงสุดจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ตามพ.ร.บ.ว่าด้วยราคาสินค้าและบริการ พ.ศ. 2542   

อย่างไรก็ตาม หากเกษตรกรรายใดไม่ได้รับความเป็นธรรมในการขายสินค้าเกษตร รวมทั้งพบเห็นหรือทราบเบาะแสการเอาเปรียบเกษตรกร สามารถแจ้งข้อมูลได้ที่สายด่วนกรมโทร. 1569 หรือสำนักงานพาณิชย์จังหวัดทั่วประเทศ จะส่งเจ้าหน้าที่ออกตรวจสอบ หากพบผิดจริง จะดำเนินการตามกฎหมายอย่างแน่นอน