ลิทัวเนีย หวั่นรัสเซียอาจจะส่งทหารเข้าเบลารุส หลังผู้นำโดนม็อบประท้วงขับไล่กล่าวหาโกงเลือกตั้ง ย้ำไม่มีการเลือกตั้งใหม่

  • รมต.ต่างประเทศลิทัวเนียระบุข้อสังสัยส่วนตัว
  • ประธานาธิบดี นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส ย้ำไม่มีเลือกตั้งใหม่
  • ต่างชาติไม่ยอมรับผลเลือกตั้งหลังชาวเบรารุสกว่า2แสนคนแห่ประท้วง

“ไลนัส ลิงเคอวิคาลุส”  รมต.ของประเทศลิทัวเนีย กล่าวว่า เขามีความสงสัยเป็นการส่วนตัวว่ากองทัพของประเทศรัสเซียอาจเข้ามาแทรกแซงวิกฤตการเมืองในประเทศเบลารุสแม้ไม่มีหลักฐาน แต่มีข้อมูลอย่างไม่เป็นทางการเกี่ยวกับการเคลื่อนไหวแปลก ๆ หรือการกระจุกตัวของกองกำลัง เนื่องจาก ความช่วยเหลือทางการทหารที่ได้รับการหารืออย่างเปิดเผยโดย นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก ประธานาธิบดีเบลารุส และนายวลาดีมีร์ ปูติน ประธานาธิบดี รัสเซีย

สำหรับความคืบหน้าของการประท้วงในประเทศเบลารุส สำนักข่าวต่าประเทศ รายงานว่า ประธานาธิบดี นายอเล็กซานเดอร์ ลูคาเชนโก แห่งเบลารุส ได้เดินทางตรวจเยี่ยมโรงงานผลิตรถแทร็กเตอร์กรุงมินสก์ ซึ่งกลุ่มคนงานให้ต้อนรับด้วยเสียงโห่ และตะโกนไล่ให้ ผู้นำวัย 65 ปีรายนี้กลับไป

“ลูคาเชนโก” บอกฆ่าให้ตายก็ไม่มีเลือกตั้งใหม่ 

นายลูคาเชนโก ซึ่งยืนกล่าวปราศรัยบนรถพ่วงขนาดใหญ่ บอกกับกลุ่มคนงานที่ไม่พอใจว่า “พวกคุณพูดถึงเรื่องการเลือกตั้งที่ไม่ซื่อสัตย์และต้องการจัดการเลือกตั้งใหม่ แต่คำตอบของผมก็คือ เราจัดการเลือกตั้งไปแล้ว และจนกว่าคุณจะฆ่าผมให้ตาย จะไม่มีการเลือกตั้งใหม่เกิดขึ้น”

“ต่อให้คุณยิงผม พรุ่งนี้ก็ตะมีคนอื่นๆ มาทำงานต่อ” นายลูคาเชนโกกล่าว และเสริมว่า เขายินดีแบ่งปันอำนาจ และแก้ไขรัฐธรรมนูญ แต่จะไม่ทำเรื่องเหล่านี้ภายใต้แรงกดดันจากท้องถนน ซึ่งเขาสื่อถึงการประท้วงที่เกิดขึ้นหลายพื้นที่ของประเทศ

ทั้งนี้ นายลูคาเชนโก ซึ่งปกครองเบลารุสมานานถึง 26 ปี กำลังเผชิญแรงกดดันอย่างหนักจากทั้งในและต่างประเทศ หลังเกิดการประท้วงใหญ่ซึ่งมีชนวนเหตุมาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 9 ส.ค. ที่ผลปรากฏว่านายลูคาเชนโกได้รับชัยชนะถล่มทลาย แต่ผู้สังเกตการณ์อิสระประณามว่านี่ไม่ใช่การเลือกตั้งที่เสรีและเป็นธรรม

โดยในวันอาทิตย์ที่ผ่านมา ชาวเบลารุส ออกมาชุมนุมกันประท้วงในเมืองหลวงกรุงมินสก์กว่า 2 แสนคน ท่ามกลางข้อกล่าวหาของฝ่ายค้าน ที่อ้างว่า ฝ่ายรัฐบาลโกงการเลือกตั้ง ทำให้นายลูคาเชนโกได้รับชัยชนะถล่มทลาย

เริ่มสูญเสียกระบอกเสียง

ซึ่งดูเหมือน นายลูคาเชนโกจะเสียการสนับสนุนจากสถานีวิทยุและโทรทัศน์แห่งชาติ ‘Belteleradio’ ซึ่งเป็นกระบอกเสียงของเขามาตลอดไปแล้ว โดยในวันจันทร์ ช่องในเครือของ Belteleradio ออกอากาศภาพโต๊ะข่าวที่ว่างเปล่า และฉายรายการวนซ้ำ เนื่องจากพนักงานผละงานประท้วงต่อต้านการเซ็นเซอร์สื่อ บางคนก็ออกไปร่วมชุมนุมที่หน้าสำนักงาน ตะโกนคำว่า “ความจริง” และชูป้ายเรียกร้องให้ประธานาธิบดีลาออก

ช่วงหลายวันที่ผ่านมา นักข่าวชื่อดังของประเทศนับสิบคนทยอยลาออก บ้างออกโดยไม่เปิดเผยเหตุผล แต่บางคนก็อ้างว่า ลาออกเพราะไม่พอใจการเซ็นเซอร์สื่อ

ด้านคนงานของบริษัท เบลารุสกาลี ผู้ประกอบการเหมืองโพแทสเซียมรายสำคัญของเบลารุส ในเมือง โซลิกอร์สก์ ก็ร่วมผละงานประท้วงด้วยเช่นกัน โดยคนงานหลายร้อยคนไปรวมตัวกันที่หน้าสำนักงานใหญ่ของบริษัท เรียกร้องให้รัฐบาลจัดการเลือกตั้งใหม่, ปล่อยนักโทษการเมือง และลงโทษตำรวจที่ใช้กำลังทำร้ายผู้ชุมนุมเมื่อสัปดาห์ก่อน

ต่างชาติไม่ยอมรับผลเลือกตั้ง

ขณะที่นอกประเทศ สหราชอาณาจักรประกาศไม่ยอมรับผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีของเบลารุส เนื่องจากไม่มีความเป็นธรรม ส่วนนาย โอลาฟ โชลซ์ รัฐมนตรีกระทรวงการคลังเยอรมนีประณามนายลูคาเชนโกว่าเป็นเผด็จการที่เลวร้าย นอกจากนั้น ผู้นำสหภาพยุโรปเตรียมจัดการประชุมผ่านวิดีโอในวันพุธ เพื่อหารือสถานการณ์ในเบลารุสด้วย

ท่ามกลางแรงกดดันต่าง นายลูคาเชนโกได้ขอความช่วยเหลือจากประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ผ่านทางโทรศัพท์ถึง 2 ครั้ง ซึ่งประธานาธิบดีเบลารุสกล่าวว่า นายปูตินสัญญาจะช่วยเหลือหากถูกคุกคามจากกองกำลังต่างชาติ

ขณะที่สื่อยุโรปได้ขนานนามเขาว่า “เผด็จการคนสุดท้ายของยุโรป” เป็นผู้นำประเทศที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในยุโรป อดีตผู้บริหารงานเกษตรกรรมของอดีตสหภาพโซเวียตวัย 65 ปี ผู้นี้เพิ่งชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีเบลารุส ซึ่งจะเป็นการดำรงตำแหน่งเป็นสมัยที่ 6 ของเขา