ลั่นไม่แทรงแซง… “วิษณุ” เผยตั้งคณะกรรมการปรองดองฯ เป็นอำนาจ “ชวน”

นายวิษณุ เครืองาม รองนายกนัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อเสนอการตั้งกรรมการปรองดองสมานฉันท์ เพื่อหาทางออกร่วมกันของประเทศ ผ่านกลไกรัฐสภาว่า ตนไม่ทราบเรื่องนี้ โดยเป็นเรื่องของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา ส่วนการเสนอให้สถาบันพระปกเกล้าเข้ามาเป็นตัวกลาง และจะให้ตัวแทนผู้ชุมนุมเข้าร่วมด้วยหรือไม่นั้น ตนก็ไม่ทราบ ซึ่งก็อยู่ที่นายชวน จะเป็นผู้กำหนดรายละเอียด ซึ่งเรื่องเหล่านี้จะต้องมาจากข้อเสนอแนะของ ส.ส. และ ส.ว. ว่ามีความเห็นพ้องกันทุกฝ่าย

นายวิษณุ กล่าวด้วยว่า ขอยืนยันว่าไม่ใช่เป็นการโยนให้ฝ่ายนิติบัญญัติเป็นผู้ดำเนินการ แต่เป็นอำนาจของประธานรัฐสภาที่จะดำเนินการ เพราะถ้าคนอื่นไปตั้งก็ไม่มีอำนาจ และจะไม่มีคนเอาด้วย แต่ประธานรัฐสภาสามารถดำเนินการได้ เนื่องจากเคยทำมาแล้วสมัย นายชัย ชิดชอบ เป็นประธานรัฐสภา และตั้งนายดิเรก ถึงฝั่ง อดีตส.ว.นนทบุรี เป็นประธานมาแล้ว

ทั้งนี้ผู้สื่อข่าวได้สอบถามว่า แนวทางนี้จะเป็นทางออกหรือไม่ เพราะสมัยนายดิเรก ก็ไม่สำเร็จ โดยนายวิษณุ กล่าวว่าก็ไม่มีวิธีอื่น จะไปตั้งเป็นกรรมาธิการ ข้อบังคับก็ไม่ได้เปิดช่องไว้ แต่ถ้าใช้อำนาจของประธานรัฐสภาตามข้อ 5(6) ของข้อบังคับการประชุมรัฐสภาก็จะไปได้ เมื่อถามว่าถ้าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งไม่เข้าร่วมการตั้งคณะกรรมการดังกล่าวควรยุติหรือเดินหน้าต่อไป นายวิษณุ กล่าวว่า ไม่แน่ใจว่าคณะกรรมการจะสามารถหาข้อยุติได้หรือไม่ แต่จะหาทางออกให้ปฏิบัติ เช่นสมัยนายชัย ก็ได้ทางออกแต่ก็ไม่สำเร็จ

นอกจากนี้เมื่อถามว่า หากมีการตั้งกรรมการขึ้นมา ตัวแทนจากฝ่ายรัฐบาลจะต้องเป็นรัฐมนตรีเลยหรือไม่ นายวิษณุกล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ได้คิดเรื่องดังกล่าว เพราะยังไม่รู้องค์ประกอบของกรรมการคืออะไร แต่หากรู้ว่าคืออะไรจะได้พิจารณากันต่อไป

อีกทั้งเมื่อถามถึงกรณีที่ระบุในที่ประชุมรัฐสภาว่า นายกฯ ได้ปรึกษารองนายกฯ เกี่ยวกับการทำประชามติว่า ควรอยู่ต่อหรือไม่ นายวิษณุ กล่าวว่า คำถามดังกล่าวอาจเป็นคำถามพ่วงก็ได้ ที่ใช้คำว่าพ่วง เพราะหากทำพร้อมกับการเลือกตั้งนายกฯองค์การบริหารส่วนท้องถิ่น เราก็เรียกคำถามพ่วง แต่ถ้าไปตั้งเอกเทศก็ไม่ใช่คำถามพ่วง แต่ยอมรับว่าคำถามตั้งยากที่จะถามในเรื่องตัวบุคคล เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 116 ห้ามไว้ ดังนั้นก็อาจจะให้คณะกรรมการปรองดองสมานฉันท์ฯ เป็นคนไปคิดคำถาม 

แต่ทั้งนี้กระบวนการดังกล่าวจะสามารถทำได้ต้องรอให้กฎหมายประชามติผ่านรัฐสภาเสียก่อน แต่ก็มีผู้เสนอในสภาว่า หากต้องการทำแบบเร่งด่วนก็สามารถออกเป็น พ.ร.ก.ประชามติได้แบบใช้ครั้งเดียวเลิก ส่วนรัฐบาลจะเห็นด้วยหรือไม่ ตนไม่ขอตอบคำถามเพราะเป็นแนวคิดของสภา ซึ่งนายกฯเพียงแต่รับฟังแต่ไม่ได้มีความเห็น