ลงทุนหุ้นปันผล!!

เปิดศักราชตลาดหุ้นไทยปี 2565 สดใส ดัชนีราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้นต่อเนื่องจากปลายปี 2564 นักออมเงิน ที่จัดสรรเงินออกไปลงทุนในตลาดหุ้น น่าจะได้กำไรจากราคาหุ้นที่ขึ้น(capital gain)ไม่มากก็น้อย 

ส่วน “มือใหม่” หรือคนที่ยังกล้าๆกลัวๆ เปิดพอร์ตแล้วยังไม่รู้จะเริ่มซื้อหุ้นอะไร “คุณนายพารวย” อยากแนะนำหาหุ้นปลอดภัย จากความเสี่ยงต่างๆ นั่นคือ “หุ้นปันผล” โดยหลายสำนักวิเคราะห์ แนะนำธีมลงทุนช่วง 4 เดือนแรกปีนี้ ให้เน้นหุ้นที่อยู่ใน ดัชนี SETHD หรือ หุ้นที่มีการจ่ายเงินปันผลสูง โดยเฉพาะในช่วงต้นปี ที่จะมีการประกาศจ่ายเงินปันผลของผลการดำเนินงานปี 64 

แล้วหุ้นปันผลมีดีอย่างไร!! จากข้อมูลบทความเรื่อง “เคล็ดลับลงทุนหุ้นปันผล” ในเว็บไซต์ https://www.setinvestnow.com ชี้ข้อดีของการลงทุนในหุ้นปันผล ไว้ชัดเจน นักลงทุนจะได้รับกระแสเงินสดจากเงินปันผลอย่างต่อเนื่องอาจเป็นรายไตรมาส หรือ ทุก 6 เดือน หรือปีละครั้ง ขึ้นกับนโยบายของแต่ละบริษัท ถือเป็นรายได้อีกช่องทางให้ผู้ถือหุ้น ในภาวะที่ตลาดหุ้นมีความผันผวน 

และการลงทุนในหุ้นปันผล จะช่วยลดความเสี่ยงจากการลงทุน เพราะเมื่อกำไรจากส่วนต่างราคาหุ้นลดลง ก็ยังมีกำไรจากเงินปันผลมาทดแทน ทำให้สามารถสร้างผลตอบแทนได้อย่างต่อเนื่อง 

ข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ 5 ปีย้อนหลัง (ณ เดือนธ.ค.ของปี 2559 – 2563) พบว่า หุ้นทั้งตลาดหลักทรัพย์ฯ มีอัตราผลตอบแทนเงินปันผลเฉลี่ยอยู่ที่ 3.04%, 2.70%, 3.22%, 3.14% และ 3.32% ต่อปี ตามลำดับ 

หุ้นปันผล คือ หุ้นที่มีกำไรและจ่ายปันผลสม่ำเสมอ ในอัตราผลตอบแทนที่น่าประทับใจ ถ้าเลือกคัดสรรหุ้นดีๆก็มีโอกาสได้อัตราเงินปันผลที่สูงกว่าค่าเฉลี่ย แต่ต้องซื้อในจังหวะเวลาที่ถูกด้วย อาจทำให้นักลงทุนได้ผลตอบแทน 2 เด้ง ทั้งจากเงินปันผลและจากราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้น 

สำหรับเทคนิคเลือกหุ้นปันผลให้ได้ผลดี เขาให้พิจารณาจากผลประกอบการและผลกำไรของบริษัท โดยให้พิจารณาดังนี้ 1. ผลประกอบการลักษณะที่ดี คือยอดขายดี ดูได้จากตัวเลขยอดขายที่เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับยอดขายในอดีต ซึ่งสะท้อนการเติบโตของรายได้และส่งผลต่อกำไรของบริษัท 

นอกจากนี้ ยังต้องดูสัดส่วนรายได้ส่วนใหญ่ของบริษัทว่ามาจากธุรกิจหลักอย่างต่อเนื่องหรือไม่ และกระแสเงินสดจากการดำเนินงานต้องเป็นบวกอยู่เสมอ เพราะแสดงว่า กิจการมีเงินสดรับจากการดำเนินงานมากกว่าจ่าย ที่สำคัญควรมีหนี้สินน้อย ดูได้จากสัดส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E Ratio) ซึ่งปกติแล้ว ตัวเลขนี้จะอยู่ 1 – 2 เท่า ขึ้นอยู่กับ แต่ละอุตสาหกรรม ดังนั้น D/E Ratio ยิ่งน้อย ยิ่งดี 

2. ผลกำไรลักษณะที่ดี คือมีกำไรต่อเนื่อง ดูได้จากบรรทัดสุดท้ายของงบกำไรขาดทุน และควรดูย้อนหลัง 3 – 5 ปี เพื่อดูความต่อเนื่องของกำไร และหุ้นปันผลที่ดีควรจ่ายปันผลจากกำไรสุทธิในปีนั้น ๆ ไม่ได้จ่ายจากกำไรสะสม และอัตราการจ่ายเงินปันผลไม่ต่ำกว่า 50% ของกำไรสุทธิในปีนั้นๆ เพื่อสะท้อนว่ากิจการเน้นจ่ายปันผล ซึ่งสามารถดูผลการดำเนินงานและอัตราการจ่ายเงินปันผลได้ในเว็บไซต์ของตลาดหลักทรัพย์ฯ 

สำหรับนักลงทุนที่กำลังมองหาหุ้นปันผล สัปดาห์หน้า “คุณนายพารวย” จะหาไปชี้ช่องทาง รวมทั้งจังหวะเวลาในการซื้อและขายหุ้นปันผลตอนไหน จะได้ผลตอบแทนที่ดีที่สุด ซึ่งเขามีข้อมูลสถิติที่รวบรวมไว้ให้เห็นช่องทางรวยด้วยหุ้นปันผลไว้แล้ว ใครรอไม่ไหวล่วงหน้าไปหาข้อมูลอ่านก่อนได้ที่ https://www.setinvestnow.com แล้วเจอกัน!! 

คุณนายพารวย