“ราชันชุดขาว”ผงาดคว้าแชมป์ยูฟ่า แชมเปียนส์ลีก สมัยที่ 14 หักปีก “หงส์แดง”หวิว 1-0

Soccer Football - Champions League Final - Liverpool v Real Madrid - Stade de France, Saint-Denis near Paris, France - May 28, 2022 Real Madrid's Marcelo celebrates with the trophy and teammates after winning the Champions League REUTERS/Lee Smith TPX IMAGES OF THE DAY
  • ประตูชัยจากวินิซิอุส จูเนียร์ ในนาทีที่ 59
  • ช่วงเวลาที่เหลือ “ลิเวอร์พูล”บุกแหลก
  • มีโอกาสลุ้นประตูแต่ไม่สามารถทำได้

เมื่อวันที่ 28 พ.ค.2565 ศึกยูฟ่า แชมเปี้ยนส์ ลีก รอบชิงชนะเลิศ ที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ประเทศฝรั่งเศส ที่ผ่านมา ลิเวอร์พูล ทีมดังจากอังกฤษ มีคิวลงสนามดวลแข้งกับ รีล มาดริด แชมป์ 13 สมัยจากสเปน โดยการแข่งขันเริ่มต้นช้ากว่ากำหนดถึง 36 นาที เนื่องจากติดปัญหาเรื่องระบบการรักษาความปลอดภัยจนทำให้แฟนบอลหงส์แดงไม่สามารถเข้ามาชมเกมในสนามได้ตามเวลา

ส่วนรูปเกมในครึ่งแรกเป็น ลิเวอร์พูล ที่ครองบอลบุกได้มากกว่าชัดเจน แต่จังหวะสุดท้ายยังไม่เด็ดขาดพอที่จะส่งบอลผ่านมือ ติโบต์ กูร์กตัวส์ นายทวาร รีล มาดริด ได้สำเร็จ ขณะที่ในนาทีที่ 43 คาริม เบนเซมา ดาวยิงราชันชุดขาว ส่งบอลเข้าไปตุงตาข่ายได้สำเร็จ แต่สุดท้ายก็ต้องเฮเก้อเพราะถูก VAR จับเป็นจังหวะล้ำหน้าไปก่อน จบ 45 นาทีแรกทั้ง 2 ทีมจึงยังเสมอกันอยู่ 0-0

Soccer Football – Champions League Final – Liverpool v Real Madrid – Stade de France, Saint-Denis near Paris, France – May 28, 2022 Real Madrid’s Karim Benzema scores a goal which is later disallowed upon VAR review REUTERS/Lee Smith

เข้าสู่ครึ่งหลัง รีล มาดริด ทำเกมได้ดีขึ้น และออกนำไปก่อน 1-0 จาก วินิซิอุส จูเนียร์ ในนาทีที่ 59 ช่วงเวลาที่เหลือ ลิเวอร์พูล บุกแหลก และมีโอกาสลุ้นประตูตีเสมอหลายต่อหลายครั้ง แต่สุดท้ายก็ยิงไปติดเซฟของ กูร์กตัวส์ เสียหมด จบเกม รีล มาดริด เชือด ลิเวอร์พูล หวุดหวิด 1-0 คว้าถ้วยแชมเปี้ยนส์ ลีก ไปครองเป็นสมัยที่ 14 แถมยังเป็นการคว้าดับเบิลแชมป์หลังจากที่เพิ่งสอยแชมป์ ลา ลีกา มาก่อนหน้านี้อีกต่างหาก