รับเต็มเต็ม!!แบงก์ไทยพาณิชย์อู้ฟู่ ขายหุ้น “เอสซีบี ไลฟ์”

  • แบงก์ไทยพาณิชย์อู้ฟู่ ขายหุ้น “เอสซีบี ไลฟ์” ให้ “เอฟดับบลิวดี” 
  • รับทรัพย์ 92,700 ล้านบาท พร้อมร่วมมือระยะยาว
  • จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตผ่านธนาคารอีก 15 ปี

นายอาทิตย์ นันทวิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และประธานกรรมการบริหาร ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ธนาคารได้ลงนามขายหุ้นที่ถืออยู่ในบริษัท ไทยพาณิชย์ประกันชีวิต จำกัด (มหาชน) สัดส่วน 99 % ของทุนจดทะเบียน ให้กับกลุ่มเอฟดับบลิวดี (FWD Group Financial Services Pte. Ltd.) จากฮ่องกง ซึ่งเป็นบริษัทชั้นนำทางด้านประกันชีวิตในเอเชีย พร้อมทั้งทำสัญญาจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิต ของเอฟดับบลิวดี ผ่านช่องทางจัดจำหน่ายต่าง ๆ ของธนาคารเป็นเวลา 15 ปี โดยได้รับค่าตอบแทนทั้งหมดเป็นจำนวน 92,700 ล้านบาท

“การลงนามกับกลุ่มเอฟดับบลิวดีในครั้งนี้แบ่งออกเป็น 2 ส่วน คือการขายหุ้นไทยพาณิชย์ประกันชีวิตที่ธนาคารถือทั้งหมด 99 % ของทุนจดทะเบียน และเป็นพันธมิตรขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตของเอฟดับบลิวดีระยะยาว ได้รับเงินจากการทำดีลคิดเป็นเงินบาททั้งหมด 92,700 ล้านบาท โดยขบวนการทั้งหมดจะเสร็จก่อนสิ้นปีนี้”

ทั้งนี้ ภายใต้เงื่อนไขตามที่ระบุไว้ในสัญญาซื้อขายหุ้น อาทิ การได้รับความเห็นชอบจากหน่วยงานกำกับดูแลที่เกี่ยวข้องและการได้รับอนุมัติจากผู้ถือหุ้นของธนาคาร โดยภายหลังการทำรายการแล้วเสร็จ ธนาคารและบริษัทไทยพาณิชย์ประกันชีวิตได้มีการตั้งทีมงานขึ้นมาดูแล เพื่อไม่ให้เกิดสูญญากาศในช่วยเปลี่ยนผ่าน โดยสิ่งที่สำคัญลูกค้าที่ถือครองกรมธรรม์ประกันชีวิตที่มีกว่า 1 ล้านคน หรือคิดเป็น 2 ล้านกรมธรรม์ จะไม่ได้รับผลกระทบใดๆ ขณะที่ในส่วนผู้บริหารและพนักงานไทยพาณิชย์ประกันชีวิตก็ไม่ได้รับผลกระทบ เนื่องจากภายหลังการเข้ามาถือหุ้นของกลุ่มเอฟดับบลิวดี ยังใช้ผู้บริหารชุดเดิมทั้งหมด


นายอาทิตย์ กล่าวอีกว่า เงินที่ได้รับจากกลุ่มเอฟดับบลิวดีในครั้งนี้ ธนาคารจะนำไปต่อยอด ด้วยการเลือกลงทุนในบริษัทที่สร้างผลกำไร ขณะที่รายได้ของธนาคารในอนาคต ยังได้รับจากการขายผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้กับเอฟดับบลิวดี อย่างไรก็ตามช่วง 2-3 เดือน หลังจากขบวนการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จ การออกผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตยังคงใช้ชื่อของไทยพาณิชย์


ด้านนายโรนัลด์ อาร์คัลลี่ ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเอฟดับบลิวดี กล่าวว่า การตัดสินใจเข้ามาลงทุนในประเทศไทยของกลุ่มเอฟดับบลิวดีในครั้งนี้ เพราะมั่นใจในตลาดไทย เห็นศักยภาพของธุรกิจประกันชีวิต และอยากลงทุนให้มากกว่านี้ นอกจากนี้ประกันชีวิตในประเทศไทยยังเป็นตลาดสำคัญในเอเชียตะวันออก ขณะที่ธนาคารไทยพาณิย์ก็มีส่วนแบ่งการตลาดที่ใหญ่ ดังนั้นเมื่อกลุ่มเอฟดับบลิวดีนำดิจิทัล และเทคโนโลยี มาเป็นเครื่องมือสร้างผลิตภัณฑ์ประกันชีวิตให้ตรงกับความต้องการลูกค้า ทั้งในเรื่องของการคุ้มครอง และการลงทุน ก็ช่วยลดการสร้างความรำคาญให้กับลูกค้าได้

“เอฟดับบลิวดีมีแผนขยายการลงทุนให้ครองคุมเอเซียน เนื่องจากตลาดประกันในภูมิภาคนี้มีอัตราการเติบโตที่สูง เห็นได้จากการเติบโตของธุรกิจประกันในประเทศไทย และมาเลเซีย”