รัฐบาลไฟเขียวแผนหนุน SME ปี 67 วงเงินกว่า 6 พันล้านบาท

  • ช่วย SME รายเล็กในธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่อง
  • ตั้งเป้าขยายโอกาสให้ SME
  • มีส่วนแบ่งในตลาดภาครัฐเพิ่มกว่า 50%

วันที่ 24 กุมภาพันธ์ ที่ผ่านมา ในการประชุมคณะกรรม การส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลาง และ ขนาดย่อม(SME) ครั้งที่ 2/2566 ซึ่งมีพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธาน ได้มีมติเห็นชอบแผนปฏิบัติการส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมประจำปี 2567 รวมถึงโครงการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการเศรษฐกิจฐานราก วิสาหกิจชุมชน และรายย่อยเพื่อเข้าถึงโอกาสทางการตลาดและช่องทางการตลาด

นายวีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า สำหรับแผนปฏิบัติการส่งเสริม SME ประจำปี 2567 สสว. ได้บูรณาการร่วมกับหน่วยงานทั้งภาครับและเอกชน ในการจัดทำข้อเสนอโครงการภายใต้แผนปฏิบัติการฯ ตามแนวทางของแผนการส่งเสริม SME ฉบับที่ 5 (พ.ศ. 2566-2570) ซึ่งเป็นกรอบทิศทางการส่งเสริม SME ของประเทศ รวมจำนวน 163 โครงการ วงเงินงบประมาณ 6,244.70 ล้านบาท

โดยแผนปฏิบัติการดังกล่าว จะมุ่งช่วยเหลือ SME ให้อยู่รอด จากความไม่แน่นอนของเศรษฐกิจโลก เพิ่มขีดความสามารถให้ปรับตัวได้ทันสถานการณ์ความเปลี่ยนแปลง รวมทั้งยกระดับ SME ที่มีศักยภาพและกลุ่มอุตสาหกรรมที่สำคัญ ให้มีบทบาทในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจประเทศ ซึ่งหลังจากบอร์ดส่งเสริม SME ให้ความเห็นชอบแล้ว สสว. จะนำแผนปฏิบัติการฯ ประกาศในราชกิจจานุเบกษา เพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องใช้เป็นกรอบในการดำเนินงานส่งเสริม SME ต่อไป

ในส่วนโครงการสนับสนุนและส่งเสริมผู้ประกอบการเศรษฐกิจฐานราก วิสาหกิจชุมชนและรายย่อยเพื่อการเข้าถึงโอกาสทางการตลาดและช่องทางการตลาด งบประมาณ 30 ล้านบาท ซึ่งเป็นโครงการประจำปี 2566 เพิ่มเติม โดย สสว. จะส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อย (Micro) ในกลุ่มธุรกิจท่องเที่ยวและธุรกิจที่เกี่ยวข้อง ให้สามารถเดินหน้ากิจการตอบรับกับภาคการท่องเที่ยวที่เริ่มฟื้นตัวได้ทันการณ์รวมถึงสร้างโอกาสในตลาดออนไลน์ และการจัดงานแสดงสินค้า ทั้งในส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ซึ่งคาดว่าจะมีกลุ่มเป้าหมายได้รับประโยชน์ไม่น้อยกว่า 3,000 ราย สร้างมูลค่าทางเศรษฐกิจไม่น้อยกว่า 100 ล้านบาท

ทั้งนี้ได้รายงานมาตรการสนับสนุนให้ SME เข้าถึงการจัดซื้อจัดจ้างภาครัฐ (มาตรการ THAI SME-GP) ซึ่งในปี 2565 จนถึงไตรมาส 3 (1 ต.ค.2564-30 มิถุนายน 2565) ภาครัฐมีการจัดซื้อจัดจ้างสินค้าและบริการจาก SME มูลค่า 393,284 ล้านบาท คิดเป็น 46.20% ของมูลค่าการจัดซื้อจัดจ้างรวม

ซึ่งที่ประชุมเห็นว่ามาตรการนี้จะช่วยขยายโอกาสให้ SME มีขีดความสามารถที่จะสร้างรายได้เพิ่มขึ้น จึงมอบหมายให้ สสว. หามาตรการเพิ่มสัดส่วนเป็นไม่น้อยกว่า 50% ของงบประมาณจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงาน ซึ่งหากดำเนินการได้สำเร็จคาดว่าวงเงินที่จัดซื้อจัดจ้างจาก SME จะเพิ่มขึ้นประมาณ 95,000 ล้านบาทต่อปี