รัฐหาทางเยียวยานักท่องเที่ยวหลังสปีดโบ๊ทชนสนั่นที่ภูเก็ต

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา (รมว.กก.) เปิดเผยภายหลังได้รับรายงานเหตุการณ์อุบัติเหตุเรือสปีดโบ๊ทชนกัน มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ บริเวณปากทางเข้าท่าเทียบเรือมารีน่า ต.เกาะแก้ว อ.เมือง จ.ภูเก็ต เมื่อวานนี้ (10 ก.พ. 63) ว่า เรือที่ชนกันเป็นเรือสปีดโบ๊ทไม่มีผู้โดยสาร ชื่อ บาหยัน 5 ของบริษัท SEA STAR TOUR ชนกับเรือสปีดโบ๊ทชื่อ ALP111 ของบริษัท อันดามันเลเซอร์ ภูเก็ต ซึ่งบรรทุกผู้โดยสารเป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียมาจำนวน 35 คน

“ต้องขอแสดงความเสียใจกับผู้ที่เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ครั้งนี้ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย เดินทางมาแบบทัวร์กับบริษัท เปกัส โดยขึ้นเรือสปีดโบ๊ทชื่อ ALP111 ของบริษัท อันดามันเลเซอร์ ภูเก็ต ซึ่งแน่นอนว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นแต่เมื่อเกิดขึ้นแล้วก็ต้องหาทางช่วยเหลือดูแลกันให้ดีที่สุด ในส่วนของกองทุนช่วยเหลือเยียวยานักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ ของกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา

เบื้องต้นถ้าเป็นไปตามเงื่อนไขของกองทุนฯ จะชดเชย กรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ สายตา ทุพพลภาพ รายละไม่เกิน 1,000,000 บาท ค่ารักษาพยาบาลทางการแพทย์ ตามที่จ่ายจริง ไม่เกิน 500,000 บาท นอกจากนี้ นักท่องเที่ยวจะได้รับค่าชดเชยจากการประกันเรือ (บริษัท วิริยะประกันภัย) และประกันจากบริษัทนำเที่ยว (บริษัท อาคเนย์ประกันภัย) ทั้งนี้ จะได้ให้สำนักทะเบียนธุรกิจนำเที่ยวและมัคคุเทศก์จะได้ตรวจสอบรายละเอียดความถูกต้องของใบอนุญาตต่างๆ อีกครั้ง”


นายพิพัฒน์ กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์ ได้สั่งการให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ตำรวจท่องเที่ยว กรมการท่องเที่ยว ท่องเที่ยวและกีฬาจังหวัดภูเก็ต ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC) ที่อยู่ในพื้นที่และพื้นที่ใกล้เคียง ให้ความช่วยเหลือและประสานงานหน่วยงานต่างๆ ที่เกี่ยวข้องในการให้การช่วยเหลือนักท่องเที่ยวที่ประสบเหตุ และเน้นย้ำให้กองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยวและกรมการท่องเที่ยวได้ลงพื้นที่เพื่อร่วมตรวจสอบเหตุการณ์ดังกล่าว จนเป็นเหตุให้นักท่องเที่ยวบาดเจ็บและเสียชีวิตในครั้งนี้เพื่อหาบทลงโทษตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง และหามาตรการป้องกันไม่ให้เกิดเหตุลักษณะนี้ขึ้นอีก

นอกจากนี้ยังได้สั่งการเร่งด่วนให้มีการนำเรื่องการยกระดับคุณภาพมาตรฐานการท่องเที่ยวไทย บรรจุเข้าเป็นวาระหารือในการประชุมเชิงปฏิบัติการภาครัฐและเอกชนเพื่อแก้ไขและรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินที่มีผลกระทบต่อการท่องเที่ยวยั่งยืน ที่จะจัดขึ้นในวันพฤหัสบดีที่ 13 กุมภาพันธ์ 2563 ณ โรงแรม อมารี วอเตอร์เกท ด้วย

อย่างไรก็ตาม รมว.พิพัฒน์ ได้เน้นย้ำถึงความปลอดภัยว่าเป็นเรื่องสำคัญที่หน่วยงานของกระทรวงฯ รวมถึงผู้ประกอบการ และนักท่องเที่ยวต้องคำนึงถึงเป็นลำดับแรก ดังนั้น หากพี่น้องประชาชนหรือนักท่องเที่ยว ต้องการความช่วยเหลือ สามารถโทรสายด่วนของกองบัญชาการตำรวจท่องเที่ยว Call Center 1155 หรือ ศูนย์ช่วยเหลือนักท่องเที่ยว (TAC.) 02-134-4077 โดยเรามีเจ้าหน้าที่ที่สามารถสื่อสารได้หลายภาษาทั้ง ไทย อังกฤษ จีน ญี่ปุ่น ฝรั่งเศส เกาหลี และรัสเซีย เตรียมพร้อมรับสายและให้บริการตลอด 24 ชั่วโมง