รัฐวิกตอเรียพบยอดผู้ติดเชื้อโควิดเพิ่ม 628 ราย

.ติดเชื้อรายวันสูงสุดในรอบปีดันยอดสะสม 8.9 หมื่นราย

.ชาวออสซี่หลายพันคนประท้วงไม่พอใจรัฐปิดไซต์ก่อสร้าง

.รมว.ท่องเที่ยวเร่งฉีดวัคซีนรับเปิดประเทศช่วงคริสต์มาส

สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า วันนี้ (22 ก.ย.) รัฐวิกตอเรียของออสเตรเลีย พบผู้ติดเชื้อโควิด-19 พุ่งขึ้นอีก 628 ราย นับเป็นยอดผู้ติดเชื้อรายวันที่สูงสุดในรอบปี และเพิ่มขึ้นจากยอด 603 รายของวานนี้ (21 ก.ย.) ส่วนยอดผู้ติดเชื้อสะสมของออสเตรเลียที่ราว 89,300 ราย และมีผู้เสียชีวิต 1,181 ราย
ขณะเดียวกัน วานนี้ ที่ ผู้ชุมนุมประท้วงหลายพันคนในเมืองเมลเบิร์น ซึ่งยังคงอยู่ภายใต้มาตรการล็อกดาวน์ ได้ทำลายอาคารสถานที่ กีดขวางการจราจร และทำร้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ 3 ราย หลังจากรัฐวิกตอเรียสั่งปิดไซต์ก่อสร้างนาน 2 สัปดาห์ โดยจับกุมผู้ประท้วงแล้วกว่า 60 คน

นายแดเนียล แอนดรูวส์ ผู้ว่าการรัฐวิกตอเรีย กล่าวว่า “ภาพเหตุการณ์แย่ ๆ ที่เราเห็นเมื่อวานนี้เป็นเรื่องที่น่าตกใจและผิดกฎหมาย”  

ขณะที่นายเชน แพตตัน หัวหน้าตำรวจของรัฐวิกตอเรีย ได้เตือนให้ผู้ประท้วงหลีกเลี่ยงการชุมนุมที่เมืองเมลเบิร์น เพราะจะมีการวางกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจเพิ่มขึ้น “เราจะไม่เปิดโอกาสให้พวกคุณทำแบบนั้นอีก… เราจะไม่ปล่อยให้มีการชุมนุมประท้วงแบบนี้ซ้ำอีก” 

โดยเมืองซิดนีย์และเมืองเมลเบิร์น รวมถึงกรุงแคนเบอร์ราอยู่ภายใต้คำสั่งล็อกดาวน์มาแล้วหลายสัปดาห์ โดยเมลเบิร์น ใช้มาตรการล็อกดาวน์มาแล้ว 6 รอบ มากที่สุดในบรรดาเมืองต่างๆ ของออสเตรเลีย 

อย่างไรก็ตาม นายแดน เตฮาน รมว.การค้า การท่องเที่ยว และการลงทุนของออสเตรเลีย เตรียมพร้อมจะเปิดรับการท่องเที่ยวระหว่างประเทศ โดยกล่าวว่า “ผมเห็นใจชาวออสเตรเลียที่ถูกปฏิเสธไม่ให้เดินทางไปต่างประเทศในปีนี้ นั่นเป็นอีกเหตุผลหนึ่งที่ทุกคนควรได้รับการฉีดวัคซีน และเราต้องยึดตามแผนระดับชาติที่จะช่วยให้สามารถเปิดพรมแดนระหว่างประเทศได้ โดยอย่างช้าที่สุดคือในวันคริสต์มาส” 

ทั้งนี้ ออสเตรเลียตั้งเป้าเปิดการท่องเที่ยวระหว่างประเทศเมื่อประชาชนอายุ 16 ปีขึ้นไปราว 80% ได้รับวัคซีนครบโดสแล้ว