- รัฐตื่นเตรียมแผนรับหากพ.ร.บ.งบปี 63 มีปัญหา
- “อุตตม”รับแผนเร่งรัดเบิกจ่ายงบประมาณไม่น่ากังวล
- เตรียมประกาศมาตรการรองรับพรุ่งนี้
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังมอบนโยบายกับผู้บริหารธนาคารกรุงไทย ว่า ต้องการให้ธนาคารกรุงไทยช่วยเหลือผู้ประกอบการเอสเอ็มอีร่วมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ ลดภาระประชาชน และปรับโครงสร้างหนี้ให้กับข้าราชการ เพราะข้าราชการส่วนใหญ่เป็นลูกค้าธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน และต้องการให้ธนาคารกรุงไทยร่วมขับเคลื่อนการพัฒนาเทคโนโลยีเป็นเสาหลัก ทำให้ไทยเข้าสู่ยุคเศรษฐกิจดิจิทัล โดยเฉพาะการขับเคลื่อนโครงการชิมช้อปใช้เชื่อมโยงข้อมูลแอปเป๋าตังรองรับยุทธศาสตร์ใหม่ ๆ ของรัฐบาล การพัฒนาผู้ประกอบการเอสเอ็มอี เพื่อเชื่อมโยงข้อมูลหลายหน่วยงานช่วยเหลือเอสเอ็มอีและรายย่อย ประชาชนทั่วไป เพราะเห็นว่าธนาคารกรุงไทยมีความพร้อมจัดเตรียมบุคลากรด้านนวัตกรรมถึง 300 คน นำมารองรับภารกิจใหม่ จึงอยากให้ธนาคารกรุงไทยเป็นเสาหลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัล
“ปัญหางบประมาณรายจ่ายปี 2563 จากการเสียบบัตรลงคะแนน ยอมรับเป็นเรื่องใหญ่กระทบต่อประเทศโดยส่วนรวม หากงบประมาณออกได้ตามปกติล่าช้าอยู่แล้ว แต่หากมีปัญหาเพิ่มขอให้ล่าช้าออกไปน้อยที่สุด ขณะนี้เดินทางไปเร่งรัดวิสาหกิจลงทุนและหน่วยงานรัฐ และกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการเชิญชวนเอกชน หารือกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังเตรียมแผนรองรับ เพื่อไม่ให้เกิดปัญหา สำหรับการแต่งตั้งคณะกรรมการขับเคลื่อนการเจรจาการค้าและการลงทุนโดยตนเป็นประธาน เพื่อขับเคลื่อนและผลักดันงบออกมาให้รวดเร็วขึ้น” นายสมคิด กล่าว
นายอุตตม สาวนายน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า สภาฯ กำลังดำเนินการ สภาฯ วิปจะดำเนินการอย่างไร หน้าที่กระทรวงการคลังและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ติดตามปัญหาเศรษฐกิจ ความมั่นคงทางการเงิน จึงมอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) พิจารณาแนวทาง หากสภาไปทิศทางใด จะมีแผนทางเลือกอย่างไร เพื่อเสนอให้รัฐบาลพิจารณา ซึ่งได้ศึกษาเตรียมการอยู่ คาดว่าผลกระทบไม่น่ามีปัญหา หรือเป็นห่วงมากเกินไป ขณะนี้ศึกษาแนวทางและผลกระทบ สำนักงบประมาณ แจ้ง ครม.ให้ทุกหน่วยงานเตรียมการจัดซื้อจัดจ้างไปพลางก่อน และออก TOR รองรับ เมื่อมีเหตุเข้ามาแทรกได้เตรียมการรองรับและพร้อมชี้แจงให้ทราบเร็ว ๆ นี้ เพื่อให้งบประมาณเบิกจ่ายเร็วที่สุด ยอมรับการออก พ.ร.ก.กู้เงิน อาจเป็นอีกแนวทางเลือกหนึ่งนำมาพิจารณา เตรียมประกาศมาตรการในการประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเงินลงทุนพรุ่งนี้ (23 ม.ค.) ที่ทำเนียบรัฐบาล
นายอุตตม กล่าวเพิ่มเติมว่า สำหรับการปรับโครงสร้างหนี้ให้กับข้าราชการ ยอมรับว่าครู ข้าราชการ ภาคการเงิน ธนาคารกรุงไทย ธนาคารออมสิน มีแนวทางดูแลปัญหาหนี้อย่างไร จึงต้องศึกษาเพิ่มเติมจะมีแนวทางอย่างไร ขณะที่ธนาคารกรุงไทยดูแลทั้งภาครัฐและประชาชน มีข้อมูลประชาชนผ่านโครงการของรัฐถึง 31 ล้านคน สัดส่วนร้อยละ 47 ของประชากร ทั้งจากระบบประกันสุขภาพ โครงการชิมช้อปใช้ บัตรสวัสดิการ จึงสามารถดูแลสวัสดิการได้ทั่วถึง ทั้งภาคเกษตร รายย่อย เอสเอ็มอี ข้อมูลโครงการชิมช้อปใช้ รับรู้ว่าต้องการสินค้าอย่างไร เพื่อให้การส่งเสริมการสั่งสินค้า ระบบโลจิสติกส์ นำมาออกมาตรการทางการเงินช่วยเหลือเอสเอ็มอี ส่งเสริมการเข้าถึงดิจิทัล ร่วมกับอีกหลายหน่วยงาน ธนาคารกรุงไทยเป็นธนาคารพาณิชย์และธนาคารของรัฐ จึงเน้นใช้เทคโนโลยี วันนี้ใช้เทคโยอย่างไรให้ธนาคารกรุงไทยช่วยด้านระบบดิจิทัล สำหรับบัตรสวัสดิการฯ คาดว่าได้ข้อสรุปในช่วง 1 เดือนข้างหน้า การเทคโนโลยีมาปรับใช้ เพื่อสร้างระบบ เพื่อมุ่งแก้ปัญหาความเหลื่อมล้ำกระจายไปทุกกลุ่ม
นายผยง ศรีวณิช กรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า จากนโยบายที่ได้รับมอบหมายจากรองนายกรัฐมนตรีกลไกดอกเบี้ยต้องสอดคล้องกับธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ยอมรับว่ากระแสเงินในตลาดค่อนข้างตึงตัว จึงต้องการให้ช่วยกันประคับประคอง เพื่อฝากการบ้านให้ธนาคารกรุงไทยศึกษาแผนรองรับ สำหรับปัญหาหนี้ข้าราชการ เป็นลูกค้าทั้งธนารคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ธนาคารออมสิน ธนาคารกรุงไทย ต้องร่วมกันดูแลเพิ่มเติม รวมทั้งการยกระดับผู้ประกอบการเอสเอ็มอี
ทั้งนี้ ยอมรับว่าธนาคารกรุงไทยดูแลระบบโครงการบัตรสวัสดิการฯ โครงการชิมช้อปใช้ สวัสดิการอื่น ๆ เบี้ยยังชีพคนชรา มารดาประชารัฐ คนพิการ ข้อมูลการให้สวัสดิการของรัฐ โอนผ่านธนาคารกรุงไทยเป็นผู้ดูแลระบบ และสวัสดิการอื่น ๆ ของรัฐ เป็นการเชื่อมโยงข้อมูลทั้งจากฐานราก รายย่อย ที่ใช้บริการผ่านร้านธงฟ้า จากนั้นชิมช้อปใช้ลงทะเบียนครอบคลุมประชาชนทุกชนชั้น ระดับกลาง ข้าราชการ ผู้มีรายได้สูง ทั้ง 2โครงการหลักของรัฐครอบคลุมประชาชนกลุ่มใหญ่มาก ร้านธงฟ้า ซื้อสินค้ามาขายให้กับชาวบ้าน นับว่าเป็นการเชื่อมโยงครอบคลุมทั้งหมด ศึกษาได้ทั้งการผลิต การขนส่งสินค้า เพื่อก้าวสู่ระบบเศรษฐกิจดิจิทัล เพื่อดูแลให้ครอบคลุม ลดปัญหาความเหลื่อมล้ำทางสังคม
