“ยุทธพงศ์” แฉกองทัพเรือ ซื้อเรือดำน้ำไร้เครื่องยนต์

  • พรรคเพื่อไทย เกาะติดซื้อเรือดำน้ำ
  • เหตุ เยอรมัน ไม่ยอมขายเครื่องยนต์ให้จีน
  • เดินหน้าแฉความไม่โปร่งใสเหล่านี้ต่อไป

นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.จังหวัดมหาสารคาม และรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย แถลงข่าวกรณีการจัดซื้อเรือดำน้ำโดยกองทัพเรือไทยจากประเทศจีน โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการต่อเรือดำน้ำลำที่ 1 ที่เมืองอู่ฮั่น ประเทศจีน และพบปัญหาว่ายังไม่มีเครื่องยนต์ ว่า โครงการจัดซื้อเรือดำน้ำของรัฐบาล พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา มีด้วยกันทั้งหมด 3 ลำ โดยลำที่ 1 และอยู่ระหว่างการต่อเรือนั้น มีมูลค่าอยู่ที่ 12,424 ล้านบาท สัญญาการจัดซื้อเริ่มต้นขึ้นในเดือนพฤษภาคม 2560 และมีกำหนดส่งมอบให้กองทัพเรือในเดือนกันยายน 2566 นอกจากนี้ ในส่วนของเรือดำน้ำลำที่ 2 และ 3 ได้มีการของบประมาณอีก 22,500 ล้านบาท ผ่านครม. ไปแล้ว แต่ยังไม่ได้มีการทำสัญญาจัดซื้ออย่างเป็นทางการขึ้นมา 

ทั้งนี้ทางพรรคเพื่อไทยคัดค้านเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะถ้ารัฐบาลไทยเซ็นต์สัญญาซื้อ จะยิ่งเกิดปัญหาหนัก เพราะพบความผิดปกติอย่างชัดเจน เมื่อปี 2563 กองทัพเรือเคยออกมาตอบโต้ว่า การซื้อเรือดำน้ำนั้นมีความจำเป็น มีประโยชน์ทางทะเล ใช้เทคโนโลยีใหม่และมีคุณภาพดี และยังมีการแจ้งความดำเนินคดี โดย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ อดีตผู้บัญชาการทหารเรือ ด้วย แต่ยืนยันว่าไม่มีความหวั่นไหวแต่อย่างใด เพราะเป็นการเอาความจริงมาฟ้องประชาชน และจะเดินหน้าแฉความไม่โปร่งใสเหล่านี้ต่อไป 

นายยุทธพงศ์ กล่าวว่า  ได้อ้างอิงข้อมูลจากเว็บไซต์ Military Leak ซึ่งเป็นเว็บไซต์ข่าวการทหารและเทคโนโลยีทางการทหาร เพื่อชี้ให้เห็นว่า ทางการจีนรู้ตั้งแต่ต้นว่าเรือดำน้ำรุ่น S26T หยวนคลาส ลำที่ขายให้ไทยไม่มีเครื่องยนต์ MTU 4,000 ตามที่ระบุเสปคไว้ในสัญญาที่ลงนามร่วมกัน และก็ไม่เคยติดต่อเพื่อขอซื้อเครื่องยนต์ดังกล่าวจากทางการเยอรมันเพื่อนำไปประกอบการต่อเรือดำน้ำลำที่ 1 ทำให้ทางการจีนต้องบริจาคเรือดำน้ำมือสอง ที่มีอายุการใช้งาน 50 ปี ให้กองทัพเรือไทยไปใช้ฝึกซ้อมก่อน 

สำหรับข้อมูลจาก Military Leak ยังระบุถึงสาเหตุที่รัฐบาลเยอรมันปฏิเสธที่จะขายเครื่องยนต์ MTU 4,000 ให้ทางการจีน เพราะจีนจะนำไปประกอบเรือดำน้ำ เพื่อขายส่งออกไปยังประเทศที่สามอย่างไทย จึงอยากถามว่าเรื่องนี้ถือว่ามีผลกระทบต่อความสัมพันธ์ระหว่างประเทศหรือไม่

ดังนั้นจึงอจเรียกร้องไปยัง พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ให้แสดงความรับผิดชอบเรื่องนี้ เพราะในปี 2560 เคยดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นผู้ริเริ่มสนับสนุนให้จัดซื้อเรือดำน้ำจากจีน ขณะเดียวกัน การลงนามสัญญาจัดซื้อเมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม 2560 ที่พล.ร.อ.ลือชัย นำภาพประธานาธิบดีสีจิ้นผิงมาระบุว่า เป็นการลงนามแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) ข้อเท็จจริงแล้ว ภาพนั้นเป็นงานเฉลิมฉลองของกองทัพเรือจีน จึงเป็นจีทูจีเก๊