ยอดใช้น้ำมันโดยรวมของประเทศช่วง 10 เดือนลดลง 13%

  • น้ำมันเครื่องบินวิกฤตลดลงกว่า60%
  • ชี้โควิดกระทบการเดินทางข้ามประเทศ
  • มั่นใจนโยบายรัฐฉุดการบริโภคในประเทศดีขึ้น

นางสาวนันธิกา ทังสุพานิช อธิบดีกรมธุรกิจพลังงาน (ธพ .)เปิดเผยภาพรวมการใช้น้ำมันของประเทศไทยเฉลี่ยต่อวันในรอบ 10 เดือน ของปี นี้(ม.ค. – ต.ค.) พบว่ามีปริมาณลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา คิดเป็น 13% โดยกลุ่มเบนซินลดลง 2.4% กลุ่มดีเซล ลดลง 3.6% น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ (Jet A1) ลดลง 60% น้ำมันเตา ลดลง 15.5% น้ำมันก๊าด ลดลง 12.0% ก๊าซหุงต้ม(แอลพีจี) ลดลง 14.6% และก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์(เอ็นจีวี) ลดลง 29.5% โดยสาเหตุสำคัญมาจากสถานการณ์โควิด-19

“เชื่อว่านโยบายภาครัฐ เช่น คนละครึ่ง เราเที่ยวด้วยกัน ในขณะนี้จะส่งผลต่อการกระตุ้นเศรษฐกิจและการบริโภคภายในประเทศที่ปรับตัวดีขึ้นอย่างต่อเนื่องซึ่งจะทำให้ปริมาณการบริโภคน้ำมันปรับตัวเพิ่มขึ้นนับจากนี้ไป”

สำหรับการใช้น้ำมันกลุ่มเบนซิน เฉลี่ยอยู่ที่ 31.3 ล้านลิตรต่อวัน โดยแก๊สโซฮอล์ อี85 มีปริมาณการใช้ลดลงมากที่สุดโดยลดลงมาเฉลี่ยอยู่ที่ 0.9 ล้านลิตรต่อวัน รองลงมาเป็นแก๊สโซฮอล์ 91 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 8.2 ล้านลิตรต่อวัน และ แก๊สโซฮอล์อี20 มีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดเฉลี่ยอยู่ที่ 6.4 ล้านลิตรต่อวัน ขณะที่แก๊สโซฮอล์ 95 มีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นมาเฉลี่ยอยู่ที่ 15.0 ล้านลิตรต่อวัน

“การใช้น้ำมันกลุ่มดีเซล เฉลี่ยอยู่ที่ 64.6 ล้านลิตรต่อวัน โดยน้ำมันดีเซลบี7 มีปริมาณการใช้ลดลงมาเฉลี่ยอยู่ที่ 44ล้านลิตรต่อวัน น้ำมันดีเซลบี10 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 14.7 ล้านลิตรต่อวัน และน้ำมันดีเซลบี20 มีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 3.9 ล้านลิตรติอวัน โดยน้ำมันดีเซลมีปริมาณการใช้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องอันเป็นผลมาจากนโยบายของภาครัฐ”

ขณะเดียวกันการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ เฉลี่ยอยู่ที่ 7.6 ล้านลิตรติอวัน ลดลงเป็นอย่างมากเนื่องจากโควิด-19 ส่งผลให้ภาครัฐยังคงมีมาตรการควบคุมและอนุญาตให้บุคคลเฉพาะกลุ่มเดินทางเข้าออกประเทศ จึงทำให้มีนักท่องเที่ยวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศไม่มากนัก ส่งผลให้ความต้องการใช้น้ำมันอากาศยานเชิงพาณิชย์ยังอยู่ในระดับต่ำ

นอกจากนี้การใช้แอลพีจีเฉลี่ยอยู่ที่ 15.3 ล้านกิโลกรัม(กก.)ต่อวัน โดยปริมาณการใช้ในภาคขนส่งลดลงมากที่สุด โดยมีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 2ล้านกก.ต่อวัน รองลงมาเป็นภาคปิโตรเคมี ซึ่งมีปริมาณการใช้เฉลี่ยอยู่ที่ 6.1 ล้านกก.ต่อวัน ถัดมาเป็นภาคอุตสาหกรรมมีปริมาณการใช้ลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 1.6 ล้านกก.ต่อวัน และภาคครัวเรือนมีปริมาณการใช้ลดลงน้อยที่สุดโดยการใช้อยู่ที่ 5.5 ล้านกก.ต่อวัน ขณะที่การใช้เอ็นจีวีเฉลี่ยต่อวันอยู่ที่ 3.8 ล้านกก.ต่อวัน สอดคล้องกับจำนวนรถยนต์ที่ใช้เอ็นจีวีเป็นเชื้อเพลิงลดลง

ทั้งนี้การนำเข้าน้ำมันของประเทศไทย มีปริมาณรวมลดลงเมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีก่อน หน้าเฉลี่ยอยู่ที่ 886,172 บาร์เรลต่อวัน ปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบลดลงมาเฉลี่ยอยู่ที่ 850,397 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่า 37,741 ล้านบาทต่อเดือน โดยเป็นผลจากการลดลงทั้งปริมาณนำเข้า และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก และสำหรับน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการนำเข้าน้ำมันเบนซินน้ำมันดีเซลน้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและแอลพีจีโดยมีปริมาณนำเข้าลดลงเฉลี่ยอยู่ที่ 35,775 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่านำเข้ารวม 1,655 ล้านบาทต่อเดือน

“การส่งออกน้ำมันสำเร็จรูป เป็นการส่งออกน้ำมันเบนซิน น้ำมันดีเซลน้ำมันเตา น้ำมันอากาศยานและน้ำมันก๊าด และแอลพีจี โดยปริมาณส่งออกเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เฉลี่ยอยู่ที่ระดับ 187,380 บาร์เรลต่อวัน คิดเป็นมูลค่าส่งออกรวม8,308 ล้านบาทต่อเดือน ซึ่งลดลงโดยเป็นผลจากราคาน้ำมันที่ลดลง////__