ม.หอการค้า คาด “ช้อปดีมีคืน” กระตุ้นใช้จ่ายปีใหม่ 3-5 พันล้านบาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตามที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบข้อเสนอของกระทรวงการคลัง เมื่อวันที่ 21 ธันวาคมที่ผ่านมา สำหรับมาตรการกระตุ้นและฟื้นฟูเศรษฐกิจปี 2565 หรือมาตรการของขวัญปีใหม่ ได้แก่ มาตรการ ช้อปดีมีคืน ปี 2565 มีวัตถุประสงค์เพื่อกระตุ้นการบริโภคในประเทศ สามารถหักลดหย่อนค่าซื้อสินค้า หรือค่าบริการ ตามจำนวนที่จ่ายจริง แต่ไม่เกิน 30,000 บาท เริ่มตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม-15 กุมภาพันธ์ 2565

นายธนวรรธน์ พลวิชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย และประธานที่ปรึกษาศูนยพ์ยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทยและหอการค้าไทย กล่าวว่า จากคาดการณ์บรรยากาศการใช้จ่ายในช่วงเทศกาลปีใหม่นี้ ทางมหาวิทยาลัยหอการค้าไทย มองว่าไม่ค่อยคึกคัก แม้ว่าจะมีการเดินทางออกไปท่องเที่ยวตามต่างจังหวัด แต่ก็จะใช้จ่ายไม่เยอะ และมีการชะลอเนื่องจาก รอดูสถานการณ์การระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) สายพันธุ์ โอมิครอน

ส่วนของโครงการช้อปดีมีคืนนั้น ช่วยสร้างความคึกคักให้กับช่วงปีใหม่ได้บ้าง โดยเฉลี่ย 3วัน ตั้งแต่วันที่ 1-3 มกราคม 2565 จะมีเม็ดเงินในโครงการ 3-5 พันล้านบาท ทั้งในส่วนของร้านอาหารและ ค่าที่พักหรือโรงแรม แต่ยังไม่เต็มที่ เป็นในลักษณะการใช้จ่ายปกติมากกว่า เนื่องจากบางส่วนได้เตรียมการณ์ไว้แล้วตั้งแต่ก่อนถึงปีใหม่แล้ว ดังนั้นเชื่อว่า ช้อปดีมีคืนจะมีผลทำให้ใช้จ่ายคึกคักมาก ในช่วงปลายเดือนมกราคม 2565 จนถึงเทศกาลตรุษจีน ในวันที่ 1 กุมภาพันธ์ 2565 ประกอบกับต้องอยู่ในเงื่อนไขที่สถานการณ์ โอมิครอนคลี่คลายได้ใน 14 วันด้วย

โดยเม็ดเงินที่จะเกิดขึ้นจากโครงการนี้ คาดการณ์จากว่าจะมีผู้ใช้ 1-1.5 ล้านคน ดังนั้น เม็ดเงินควรอยู่ที่ 3-5 หมื่นล้านบาท ถือว่าช่วยเติมให้บรรยากาศเศรษฐกิจที่สดใส เหมาะสำหรับเทศกาลปีใหม่ ตรุษจีน และลากยาวถึงวาเลนไทน์ ให้ประชาชนใช้จ่ายอย่างเต็มที่ จำนวนถึง 3 หมื่นบาทต่อคน และได้แรงจูงใจจากการลดหย่อนภาษีจำนวนมาก เหมือนกับลดราคาสินค้า 30-35% ซึ่งเปรียบเทียบแล้ว ได้รับส่วนลดมากกว่าสิทธิที่ได้รับในโครงการคนละครึ่ง