ม็อบไม่กลัว! พ.ร.ก.ฉุกเฉินรวมตัวยึดราชประสงค์

  • ผู้ชุมนุมกว่า100 คนได้แห่กันลงไปบนถนน
  • ยืนรวมตัวชู 3 นิ้ว โห่ร้องไล่ประยุทธ์ออกไป

15 ต.ค.2563 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ภายหลังจากรัฐบาลได้ประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินร้ายแรงในเขตท้องที่กรุงเทพฯ เมื่อช่วงเช้ามืดที่ผ่านมา จากการชุมนุมของกลุ่มคณะราษฎร 2563 ที่ปิดล้อมบริเวณทำเนียบรัฐบาลตั้งเมื่อวันที่14ต.ค.ที่ผ่านมา และเจ้าหน้าที่ได้เข้ากระชับพื้นที่สลายการชุมนุมในช่วงรุ่งเช้าวันนี้(15ต.ค.) และบรรดาแกนนำกลุ่มคณะราษฎร 63 ส่วนใหญ่ได้ถูกจับกุมตัวไปแล้วนั้น  ยังได้มีการโพสต์เชิญชวนให้แนวร่วมมาร่วมชุมนุมที่บริเวณแยกราชประสงค์ กทม. ในเวลา16.00น.

ล่าสุดผู้สื่อข่าวรายงานจากบริเวณแยกราชประสงค์ ใกล้ศูนย์การค้าเซ็นทรัล เวิล์ดว่า ตั้งแต่ก่อน 15.00 น. ได้เริ่มมีมวลชนทยอยเดินทางมารวมตัวเพื่อชุมนุม โดยได้มีการชู3นิ้วพร้อมกับ ตะโกนว่า “ประยุทธ์ออกไป” “ปล่อยเพื่อนเรา” และบางส่วนมีการด่าทอด้วยคำหยาบ ขณะที่การดูรักษาความปลอดภัยของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ได้เริ่มมีการทยอยปิดเส้นทางเดินบนสกาย วอล์คจากช่วงแยกราชประสงค์โดยมีเจ้าหน้าที่ยืนควบคุมดูแลประจำจุดสกายวอล์คอีกด้วย

นอกจากนี้เจ้าหน้าที่ยังมีการการตรึงกำลังบริเวณโดยรอบแยกราชประสงค์ สนธิกำลังกันระหว่างเจ้าหน้าที่ตำรวจภูธรแต่ละจังหวัด และเจ้าหน้าที่ตำรวจควบคุมฝูงชน

ทั้งนี้ ได้เกิดเหตุวุ่นวายขึ้นเล็กน้อยบนสกายวอล์ค หลังเจ้าหน้าที่ขอความร่วมมือให้ประชาชนลงจากสกาย วอล์ค เพื่อให้ง่ายต่อการดูแลบนจุดสูงข่ม แต่มีประชาชนบางส่วนขัดขืนและไม่ยอม ทำให้เกิดการดันกันไปมา และชู3นิ้วตอบโต้ พร้อมโห่ไล่เจ้าหน้าที่ จากนั้นเหตุการณ์จึงสงบลง โดยขณะนี้เวลาประมาณ15.25 น. กลุ่มผู้ชุมนุมประมาณกว่า 100 คนได้แห่กันลงไปบนถนน ที่มีทั้งกลุ่มคนเสื้อแดง ผสมกับคนรุ่นใหม่บ้าง โดยได้ยืนรวมตัวชู 3 นิ้ว โห่ร้องไล่ประยุทธ์ออกไป

ด้านเจ้าหน้าที่ได้ประกาศผ่านเครื่องขยายเสียงห้ามชุมนุม และให้ออกจากพื้นผิวถนนภายใน 15 นาที เนื่องจากเป็นการฝ่าฝืนประกาศสถานการณ์ฉุกเฉินฯ ที่มีความผิดตามกฎหมาย แต่ผู้ชุมนุมไม่สนใจ พยายามจะปิดถนนแยกราชประสงค์ ขณะที่การจราจรเริ่มติดขัดแล้ว

อย่างไรก็ตามตำรวจได้มีมาตรการดูแลในภาพรวม โดยแบ่งพื้นที่ออกเป็น 3 โซนหลัก  โซนแรก สกายวอล์ค รถไฟฟ้าบีทีเอส  โซน 2 ถนนราชดำริ ซีกขวา ตั้งแต่ห้างบิ๊กซี เกษรพลาซ่า มายังอัมรินทร์พลาซ่า และโซน 3 ตั้งแต่เซ็นทรัลเวิลด์ พารากอน ถนนพระราม 1 และสำนักงานตำรวจแห่งชาติ