25 กันยายน 2564 นายศุภชัย ใจสมุทร ส.ส.บัญชีรายชื่อและนายทะเบียนพรรคภูมิใจไทย โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า ถึงแล้ว 50 ล้านโดส
ครึ่งทางแผนคืนรอยยิ้มประเทศไทย
ตัวเลขจำนวนวัคซีนกว่า 50 ล้านโดส ที่ฉีดให้กับประชาชน คือ ครึ่งหนึ่ง ของเป้าหมายการฉีดวัคซีนในปี 2564 ที่ 100 ล้านโดส
ซึ่งจะเท่ากับจำนวนประชากร 70% จะได้รับวัคซีน อันจะเป็นการสร้างภูมิคุ้มกันหมู่ในระดับกันป่วยหนัก ถึงเสียชีวิต ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เป็นตัวเลขที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เพราะหมายถึงครึ่งทาง สู่เป้าหมายการคลายล็อก คืนชีวิต ฟื้นเศรษฐกิจไทย เพราะต้องยอมรับว่า เราไม่สามารถที่จะปิดบ้าน ปิดเมือง อยู่กันต่อไปเช่นนี้ได้ …
ย้อนกลับไปวิกฤติการระบาดรอบก่อน ได้ให้ประสบการณ์ไว้มากมาย ทำให้ไทยได้ “ปรับใหญ่” กลยุทธ์สู้โรค ทั้งเรื่องการกักตัวที่บ้าน และการฉีดวัคซีนไขว้ ก็มาจากคลื่นการระบาดล่าสุด
ปัจจุบัน ไม่มีการพูดว่าระบบสาธารณสุขไทยล่มสลายแล้ว
ทุกอย่างเข้ารูป เข้ารอย ด้วยแรงกาย แรงใจ ของคนทำงาน และคนไทยทุกคน
ระยะทางพิสูจน์ม้าฉันใด กาลเวลาก็พิสูจน์ความสามารถของบุคลากรกระทรวงสาธารณสุขไทยฉันนั้น
จากนี้ เราต้องอยู่ร่วมโรคให้ได้ และต้องไม่บอบช้ำจนเกินไปนัก
เราต้องเปิดช่องทางให้ประเทศได้ไปต่อ ให้คนไทย ได้กลับมาทำมาหากินอย่างที่เคยเป็น
ความสำเร็จในการบริหารประเทศ คือ การที่เราสามารถจัดการกับโรคได้อย่างเข้าใจ
แต่การที่เราจะขยับมาถึงจุดนั้น ความปลอดภัย เป็นเรื่องสำคัญ
ถึงเราจะไม่สามารถกดยอดผู้ติดเชื้อให้เหลือ 0 ได้อีกแล้ว ซึ่งเป็นข้อเท็จจริงที่ทั่วโลกต้องเผชิญ แต่เราต้องลดจำนวนผู้ป่วยหนัก และผู้สูญเสียให้ได้มากที่สุด
วัคซีน จึงเป็นกลยุทธ์สำคัญ
กว่าเราจะฉีดมาได้ถึง 50 ล้านโดส แพทย์ พยาบาล บุคลากรสาธารณสุขต้องทุ่มเทเสียสละเป็นอย่างยิ่ง
เพราะไม่ใช่แค่ต้องฉีดแข่งกับโรค แต่ยังต้องฉีดแข่งกับฝ่ายการเมืองที่จ้องหาเรื่องมาโจมตีรายวัน
ต้องขอบคุณทีมสาธารณสุขไทย ที่ทำงานสยบเสียงวิจารณ์ ให้เหลือเพียงเสียงชื่นชมจากประชาชน
ต้องขอบคุณพี่น้องคนไทย ที่ให้ความร่วมมืออย่างดีเยี่ยม
ที่สุดแล้ว แผนคืนรอยยิ้มประเทศ พลิกฟื้นเศรษฐกิจไทย ได้มาถึงครึ่งทางของความสำเร็จ
วันนี้ ทีมวัคซีนสยาม ยังต้องการขวัญ กำลังใจ และความร่วมมือจากพี่น้องประชาชน เพื่อบรรลุเป้าหมายอีก 50 ล้านโดส
เป็นอีก 50 ล้านโดส
ให้คนไทยได้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง
สดุดีคนทำงาน
50ล้านโดสฟื้นชีวิตประเทศ