มีความสุข..ในยุครัฐ “ลุงตู่” ซูเปอร์โพลเผยความสุขมวลรวมชาวน่านพุ่งแซงปีก่อน

  • ความสุขชุมชนมวลรวมของชาวน่านเพิ่มขึ้นอยู่ที่8.02 จากเดิมปีก่อน7.72
  • ส่วนหนึ่งมาจากผลพวงการมีกฎหมายให้ประชาชนอยู่กับป่าได้

ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร.นพดล กรรณิกา ผู้อำนวยการสำนักวิจัยซูเปอร์โพล (SUPER POLL)มูลนิธิสถาบันวิจัยความสุขชุมชนและความเป็นผู้นำร่วมกับสำนักงานพัฒนาเศรษฐกิจจากฐานชีวภาพ(องค์การมหาชน)กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมได้นำเสนอผลสำรวจภาคสนามเรื่องความสุขชุมชนมวลรวมของชาวน่านยุคบิ๊กตู่กรณีศึกษาประชาชนทุกสาขาอาชีพในจังหวัดน่านจำนวนทั้งสิ้น1,752ตัวอย่างดำเนินโครงการทั้งการวิจัยเชิงปริมาณ(Quantitative Research)และการวิจัยเชิงคุณภาพ(Qualitative Research)ระหว่างเดือนส.ค.2561ถึงเดือนส.. 2562ที่ผ่านมาพบว่าส่วนใหญ่หรือ97.4 %มีความสุขจากการปกป้องเทิดทูนสถาบันชาติศาสนาและพระมหากษัตริย์รองลงมาคือ89.9 %สุขจากวัฒนธรรมประเพณีของชาวน่าน

รวมถึง86.8%สุขจากการกตัญญูรู้คุณพ่อแม่73.7 %สุขจากการป้องกันแก้ปัญหาภัยพิบัติ72.8 %สุขจากความปลอดภัยจากการทำงาน70.2% สุขจากการเป็นคนขยันทำงานมากกว่าคนอื่นร69.3% สุขจากที่เจ้าหน้าที่รัฐเข้ามาช่วยให้ประชาชนมีที่ทำกิน67.8% สุขจากอาหารที่รับประทานประจำวัน67.2%สุขจากการร่วมกิจกรรมอนุรักษ์ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม67.1 %สุขจากความสามารถออกกำลังกายยกของหนักได้

นอกจากนี้ 61.9%สุขจากความพอใจในรูปร่างหน้าตาของชาวน่าน 58.9 %สุขจากความมั่นคงในอาชีพการงาน 58.5% สุขจากความหลากหลายทางธรรมชาติใกล้ชุมชน 52.1% สุขจากความเท่าเทียมและเป็นธรรมจากการใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติ 48.8% สุขจากการเข้าถึงเพื่อใช้ประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติเช่นแหล่งน้ำป่าและ 42.1%สุขจากการทำประโยชน์ส่วนรวมมีจิตอาสาตามลำดับ

ทั้งนี้เมื่อทำการวิเคราะห์ค่าเฉลี่ยความสุขชุมชนมวลรวม(Gross Community Happiness, GCH) ด้วยค่าคะแนนเต็ม10 คะแนนพบว่าความสุขของชาวน่านสูงสุดได้แก่ความสุขในครอบครัวอยู่ที่8.18 รองลงมาคือความสุขต่อสภาพแวดล้อมที่พักอาศัยอยู่ที่7.72 ความสุขต่ออาชีพการงานอยู่ที่7.65 ความสุขต่อวัฒนธรรมประเพณีอยู่ที่7.64 ความสุขในหมู่บ้านชุมชนอยู่ที่7.63 ความสุขต่อทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอยู่ที่7.37 ความสุขต่อสุขภาพกายอยู่ที่7.34 สุขภาพใจอยู่ที่7.15 ความสุขต่อรูปแบบการใช้ชีวิตอยู่ที่6.92 และความสุขต่อการช่วยเหลือของเจ้าหน้าที่รัฐอยู่ที่5.95 ตามลำดับ 

แต่ที่น่าสนใจคือเมื่อเปรียบเทียบความสุขชุมชนมวลรวมของชาวน่านระหว่างเดือนส..2561 กับเดือนส.. 2562 พบว่าความสุขชุมชนมวลรวมของชาวน่านเพิ่มขึ้นจาก7.72 มาอยู่ที่8.02 ในการสำรวจครั้งนี้

ผอ.ซูเปอร์โพล กล่าวว่า จากการศึกษาเชิงลึกพบว่าการบริหารจัดการทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมตามนโยบายของรัฐบาลมีนัยสำคัญต่อความสุขชุมชนมวลรวมของประชาชนชาวจังหวัดน่านเช่นการมีกฎหมายให้ประชาชนอยู่กับป่าได้สำหรับประชาชนที่อยู่กับป่าก่อนเดือนพ.ค. 2557และแนวนโยบายที่ว่าไม้มีค่าป่าชุมชนคนอยู่ร่วมกับป่าที่เปิดโอกาสให้ประชาชนสามารถเข้าถึงทรัพยากรธรรมชาติและสามารถผลิตไม้มีค่าเพื่อความมั่นคงในอาชีพการงานและฐานะทางเศรษฐกิจของครอบครัวตามแนวทางที่ว่ารัฐได้ป่าประชาได้ที่ทำกินบนผืนดินเดียวกันโดยเอาความสุขของประชาชนเป็นตัวตั้งที่เกิดขึ้นในนโยบายของรัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์จันทร์โอชาตามช่วงเวลาของการสำรวจวิจัยทั้งสองครั้งนี้