มั่นใจ!“จุรินทร์”มั่นใจกวาด 9 ส.ส. ใน 3 จังหวัดภาคตะวันออก

.ชี้ลำดับปาร์ตี้ลิสต์ ปชป.เน้นศักยภาพ-คนรุ่นใหม่ควบคู่อาวุโส

.ไม่หวั่นฝ่ายค้านซักฟอกแบบไม่ลงมติ เชื่อประชาชนได้ประโยชน์

เมื่อเวลา 10.00 น.วันที่ 8 ตุลาคม 2564 ที่ จ.ตราด นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวถึงการเตรียมความพร้อมเรื่องตัวผู้สมัครในภาคตะวันออกของพรรค ว่า สำหรับในภาคตะวันออกที่เป็นเป้าหมายของพรรค ขณะนี้อย่างน้อยมี 3 จังหวัด ที่ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้วทั้งหมดเกือบ 100% แล้ว ประกอบด้วย จ.จันทบุรี , จ.ระยอง และ จ.ตราด สำหรับ จ.ระยอง มี ดร.สาธิต ปิตุเตชะ รองหัวหน้าพรรค เป็นผู้รับผิดชอบดูแลโดยตรง เพราะเป็นหนึ่งในผู้แทนราษฎรของพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้ว และในการเลือกตั้งครั้งหน้า จ.ระยอง จะมีผู้แทนเพิ่มเป็น 5 คน ถ้าเป็นการเลือกตั้งแบบใช้บัตรสองใบ ส่วน จ.จันทบุรี พรรคได้เปิดตัวผู้สมัคร 3 ท่านไปแล้วในนาม “ดรีมทีม ประชาธิปัตย์ จันทบุรี” สำหรับ จ.ตราด ก็ได้เตรียมผู้สมัครแล้ว 1 คน

“3 จังหวัดนี้ จะมีผู้แทนราษฎร ถ้าเป็นบัตรสองใบรวมกัน 5+3+1 รวมเป็น 9 คน ซึ่ง 9 ที่นั่งนี้ ถือว่าประชาธิปัตย์มีโอกาสที่จะได้รับเลือกตั้งทั้งหมดนี้สูง เพราะเมื่อวานได้คุยกันระหว่างแกนนำของพรรคทั้ง 3 เขต และผู้สนับสนุนก็เห็นตรงกันว่ามีโอกาสสูงมาก เที่ยวนี้ที่เราจะได้จังหวัดจันทบุรีทั้ง 3 คน และผู้สมัครก็มีศักยภาพด้วย มีทั้งเลือดใหม่ไหลเข้า เลือดเก่าไหลกลับ รวมอยู่ทั้ง 3 คน เพราะเขต 1 เป็นผู้สมัครหน้าใหม่ เป็นทันตแพทย์ และมีศักยภาพสูง ลงพื้นที่สม่ำเสมอเป็นคนรุ่นใหม่ บุคลิกภาพดี ลงพื้นที่ติดดินตลอด ส่วนอีกเขต น้องเบนซ์ ชรัตน์ เนรัญชร ลงสมัครคราวที่แล้วแพ้ไม่มาก เที่ยวหน้าก็มีโอกาสเพราะทำงานการเมืองสม่ำเสมอ ส่วนท่านยุคล เป็นอดีต ส.ส.ของพรรค แม้ย้ายพรรคไปรอบนึง วันนี้ก็เลือดเก่าไหลกลับก็มีโอกาสมาก เมื่อกลับมาประชาธิปัตย์ทุกคนก็พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า เที่ยวนี้จะได้ถ้ากลับมาลงในนามพรรคประชาธิปัตย์” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว

ซึ่ง “ดรีมทีม ประชาธิปัตย์ จันทบุรี” สำหรับการเลือกตั้งครั้งหน้านี้ ประกอบด้วย นายยุคล ชนะวัฒน์ปัญญา อดีตสมาชิกวุฒิสภา และอดีตสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร จ.จันทบุรี 3 สมัย ซึ่งเคยลาออกจากพรรคประชาธิปัตย์ไป , นายชรัตน์ เนรัญชร จบปริญญาตรี เกียรตินิยม ด้านการตลาด ปริญญาโท ด้านการบริหารการเงิน ปัจจุบันเป็นรองเลขาธิการหอการค้าจังหวัดจันทบุรี และ ทพ.อิทธิพล จังสิริมงคล เป็นศิษย์เก่า รร.สวนกุหลาบ ทันตแพทย์จุฬาฯ ปริญญาโท นิติศาสตร์ และเคยรับราชการที่ รพ.ศูนย์จันทบุรี

เมื่อถามว่า คู่แข่งใน จ.จันทบุรี ว่าเป็นขาใหญ่ของพรรคเพื่อไทยนั้น นายจุรินทร์ กล่าวว่า เป็นธรรมดา ไม่มีเขตไหนที่ลงคนเดียว เพราะฉะนั้นก็ต้องมีคู่แข่ง เราก็เป็นคู่แข่งของเขา เขาก็เป็นคู่แข่งของเรา ทุกเขตเลือกตั้งจะต้องเป็นอย่างนี้อยู่แล้ว

เมื่อถามต่อว่า การจัดลำดับ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ว่ามีความกังวลหรือไม่ ที่มีหลายฝ่ายมองว่าการเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของประชาธิปัตย์เป็นเรื่องยาก เพราะต้องฝ่า 18 ด่านอรหันต์ ในเรื่องอาวุโสนั้น หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคมีเกณฑ์อยู่แล้วว่าผู้ใดเหมาะสมที่จะลงสมัครรับเลือกตั้งเป็นปาร์ตี้ลิสต์ของพรรคบ้าง มีศักยภาพอย่างไร ความอาวุโสก็เป็นหนึ่งในนั้นแต่ไม่ใช่ทั้งหมด เพราะพรรคก็จะเปิดโอกาสให้กับคนรุ่นใหม่ ที่ผ่านมาเมื่อตนมาเป็นหัวหน้าพรรค ก็ได้พิสูจน์ชัดเจน อย่าง คุณปริญญ์ พานิชภักดิ์ เข้ามาพรรคครั้งแรก ก็ได้รับการสนับสนุนให้เป็นรองหัวหน้าพรรค เพราะเขามีศักยภาพ เป็นคนรุ่นใหม่และทำหน้าที่ได้ดี ยังมีคนอื่นๆ อีกมาก เช่น ดร.อิสระ เสรีวัฒนวุฒิ , คุณตั๊น จิตภัสร์ ก็ลงสมัครในนามบัญชีรายชื่อของพรรคเป็นคนรุ่นใหม่ของพรรค

“ขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความรู้ความสามารถ และผลงาน จะเป็นตัวชี้วัดด้วย สำหรับการจัดลำดับปาร์ตี้ลิสต์ครั้งหน้า ไม่ใช่มีแค่อาวุโสอย่างเดียว เพราะฉะนั้นคนรุ่นใหม่ที่จะเข้ามาในพรรคก็มีโอกาส และวันนี้ก็พิสูจน์ให้เห็นว่า คนรุ่นใหม่จำนวนมากเดินเข้าพรรคประชาธิปัตย์ และผมก็ได้ประกาศตัวไปตามลำดับอยู่แล้ว และยังมีอีกเยอะเมื่อถึงเวลาก็จะประกาศให้ทราบ ยุคนี้ถือว่าเป็นยุคที่คนรุ่นใหม่ที่มีศักยภาพเดินเข้าพรรคประชาธิปัตย์มากที่สุด จนวันนี้ก็ยังเดินเข้าอยู่ เมื่อวานซืนประชุมกรรมการบริหารพรรค ก็มีการรับสมาชิกใหม่ 7,000 – 8,000 คน ในจำนวนนั้นเป็นคนรุ่นใหม่ถึง 20 – 30%” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์กล่าว

เมื่อถามว่า ฝ่ายค้านเตรียมยื่นซักฟอกรัฐบาลแบบไม่ลงมติทันทีที่มีการเปิดสภา หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวว่า พรรคประชาธิปัตย์สนับสนุน เพราะอะไรก็ตามที่เป็นไปตามวิถีทางประชาธิปไตยรัฐสภา ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาธิปัตย์สนับสนุนเสมอ เพราะฉะนั้นถ้าจะมีการยื่นญัตติอภิปรายทั่วไปโดยไม่มีการลงมติ ก็ถือว่าเป็นหนึ่งในวิถีทางประชาธิปไตยในการตรวจสอบรัฐบาล เพราะอภิปรายไม่ไว้วางใจทำไม่ได้ เพราะได้ใช้สิทธิ์ไปแล้วตามรัฐธรรมนูญ

“ประชาธิปัตย์สนับสนุนอยู่แล้ว อะไรที่เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ และวิถีทางประชาธิปไตยที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข ประชาธิปัตย์ไม่ขัดข้อง และสนับสนุน รัฐบาลก็จะได้ชี้แจงด้วยขณะที่ฝ่ายค้านอภิปราย ผมคิดว่าไม่มีอะไรเสียหายเลย แล้วประชาชนจะเป็นคนได้รับประโยชน์ เพราะฝ่ายค้านอภิปราย หรืออาจเป็นประโยชน์เพราะรัฐบาลชี้แจงเกิดความเข้าใจมากขึ้นก็ได้ ขึ้นอยู่กับสถานการณ์เวลานั้นว่าสุดท้ายแล้วใครสามารถที่จะอธิบายและเป็นประโยชน์กับประชาชนมากกว่ากัน” หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าว