มั่นคงเคหะการ จับมือหน่วยงานรัฐ แก้ไขปัญหาขยะต้นทางแม่น้ำเจ้าพระยา

  • หนุนใช้ทุ่นกักขยะ และเรือเก็บขยะบนพื้นที่บางกระเจ้า ปกป้องระบบนิเวศทางทะเล
  • ลดปัญหาสัตว์ทะเลบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการกินขยะ

นางสาวดุษฎี  ตันเจริญ กรรมการผู้จัดการ บริษัท มั่นคงเคหะการ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า บริษัทได้ร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) กับ 4 หน่วยงานรัฐ ประกอบด้วย กรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม กรมเจ้าท่า กระทรวงคมนาคม  กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา และ องค์การบริหารส่วนตำบลบางน้ำผึ้ง  จ.สมุทรปราการ   เพื่อดำเนินโครงการ “จัดการขยะลอยน้ำด้วยทุ่นกักขยะ (BOOM)” รวมระยะทาง 250 เมตร บริเวณ แม่น้ำเจ้าพระยา ในพื้นที่ตำบลบางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 1 หมู่ 2 และหมู่ 3 จ.สมุทรปราการ ซึ่งจะช่วยช่วยจัดการปัญหาปริมาณขยะก่อนออกสู่ทะเล และผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตและระบบนิเวศในพื้นที่

“บริษัทได้ร่วมสนับสนุนทุ่นกักขยะ พร้อมติดตั้งในพื้นที่ อบต.บางน้ำผึ้ง หมู่ที่ 1 บริเวณร้าน Bangkok Tree House และหมู่ที่ 3 บริเวณท่าเรือแลพระนคร ความยาวรวม 150 เมตร พร้อมสนับสนุนเรือยนต์จัดเก็บขยะจำนวน 1 ลำ เพื่อมอบให้ อบต.บางน้ำผึ้ง ใช้เป็นสาธารณะประโยชน์ของส่วนรวมในการบริหารจัดการขยะต่อไป “

สำหรับการดูแลและรักษาสิ่งแวดล้อม เป็นนโยบายที่บริษัทให้ความสำคัญมาโดยตลอด  เนื่องจากเป็นพื้นฐานของการมีสุขภาวะที่ดี หรือ Well-being โดยเป้าหมายของโครงการนี้ นอกจากช่วยลดปริมาณขยะออกสู่ทะเล ยังมีส่วนช่วยลดปัญหาสัตว์ทะเลบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากการกินขยะที่ส่วนใหญ่เป็นพลาสติก ที่กำลังมีผลกระทบวงกว้างและมีปริมาณเพิ่มขึ้นอีกด้วย

ด้าน นายปิ่นสักก์  สุรัสวดี  รองอธิบดีกรมทรัพยากรทางทะเลและชายฝั่ง (ทช.)   กล่าวว่า ความร่วมมือติดตั้งทุ่นกักขยะครั้งนี้ เป็นโครงการนำร่องเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาขยะที่ถูกพัดพามาบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาเข้าบริเวณพื้นที่คุ้งบางกระเจ้า ซึ่งจากการศึกษา ของสถาบันวิจัยและพัฒนาทรัพยากรทางทะเล ชายฝั่งทะเล และป่าชายเลน  พบว่า ขยะทะเลลอยน้ำที่ไหลผ่านปากแม่น้ำที่ความลึก 2 เมตร ในช่วงน้ำลงบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยามีปริมาณ 1,425 ตันต่อปี  ส่วนหนึ่งสร้างปัญหา แก่คนในพื้นที่คุ้งบางกะเจ้า จากการระบายน้ำจากคลองบางนา (บริเวณข้างวัดบางนา นอก) คลองบางอ้อ คลองพระโขนง และขยะจากเรือลากจูงทราย เรือขนส่งที่มาจอดหยุดพักรอน้ำขึ้น – น้ำลง บริเวณตำบลบางน้ำผึ้ง ก่อนที่จะลอยทะลักเข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา  

“คาดว่าโครงการนี้จะช่วยป้องกันขยะไหลลงสู่ท้องทะเลได้ถึงร้อยละ 80 ของขยะทะเล ที่มีแหล่งกำเนิดจากพื้นที่บนบกไหลผ่านปากแม่น้ำไหลลงสู่ทะเล รวมถึงลดผลกระทบที่เกิดกับสิ่งมีชีวิต และการตายของสัตว์ทะเลหายาก จากการเข้าใจผิดว่าเป็นอาหาร และระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง โดยกรมฯ จะนำขยะที่กักไว้ได้ไปศึกษาวิจัยเพื่อเป็นข้อมูลในลดผลกระทบด้านต่างๆ ที่เกิดต่อทรัพยากรและระบบนิเวศทางทะเลและชายฝั่ง รวมทั้งศึกษาประสิทธิภาพของทุ่นกักขยะ เพื่อขยายผลดำเนินการในพื้นที่อื่นต่อไป ”

โดยข้อมูลปี 2560 พบว่า ขยะมูลฝอยในไทยมีปริมาณ 27.40 ล้านต้นต่อปี คิดเป็นคนไทยสร้างขยะ 1.13 กิโลกรัมต่อคนต่อวัน ในจำนวนดังกล่าวมีการนำขยะไปกำจัดอย่างถูกต้อง 11.70 ล้านตัน นำไปรีไซเคิล 8.52 ล้านตัน ขยะที่เหลือจำนวน 7.18 ล้านตันกำจัดไม่ถูกต้อง และปล่อยให้เกิดการปนเปื้อนออก   สู่สิ่งแวดล้อม กลายเป็นแหล่งกำเนิดของขยะทะเลในที่สุด