มอร์รีเทิร์น ประกาศทุ่มกว่า 1,000 ล้านบาท ถือลิขสิทธิ์ “Rolling Loud”

  • เทศกาลดนตรีฮิปฮอปสุดยิ่งใหญ่ระดับโลก
  • เตรียมจัดงานที่ไทยปี 66 มุ่งกระตุ้นเศรษฐกิจ
  • ดึงนักท่องเที่ยวชาวไทยและต่างชาติหนุนภาคการท่องเที่ยวอย่างยั่งยืน

ดร.อมฤทธิ์ กล่อมจิตเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มอร์รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) หรือ MORE กล่าวว่า  ผมเชื่อมั่นว่าการขยายธุรกิจสู่ตลาดเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ จะสร้างผลประกอบการทางธุรกิจที่ดี โดยเฉพาะตลาดการท่องเที่ยวทั่วโลกที่เปลี่ยนแปลงไป ทั้งรูปแบบการเดินทาง ที่เน้นเมืองท่องเที่ยวที่ได้สร้างประสบการณ์การท่องเที่ยวที่ครบรูปแบบและมีความคุ้มค่า มีคอนเทนต์ให้ได้แชร์ในโลกโซเชียลมีเดีย และกลุ่มนักท่องเที่ยวยุคใหม่ และกลุ่ม Digital Nomad ที่ทำงานที่ไหนก็ได้บนโลกใบนี้ผ่านเทคโนโลยี ที่มองหาเมืองท่องเที่ยวที่จะสามารถเติมเต็มไลฟ์สไตล์ พร้อมเจอเพื่อนใหม่ๆ และมองหาความสนุกกับเทศกาลดนตรีและการสังสรรค์กับเพื่อนในประเทศใหม่ๆ

“ผมเล็งเห็นโอกาสจากสถานการณ์ปัจจุบันที่เราไม่สามารถเดินทางท่องเที่ยวได้ ประกอบกับประสบการณ์กว่ายี่สิบปีของผมด้านเอ็นเตอร์เทนเม้นท์ และการท่องเที่ยว ผมจึงอยากใช้โอกาสนี้ผลักดันให้ประเทศไทยกลับมาเป็นผู้นำด้านการท่องเที่ยวโดยใช้ Entertainment Content เป็นตัวเพิ่มมูลค่าให้กับการท่องเที่ยว พร้อมเปิดประเทศกับเทศกาลดนตรีระดับโลก ซึ่งถือเป็นที่แรกในเอเชีย ที่ตรงกับกลุ่มนักท่องเที่ยวแบบใหม่ที่ครองตลาดโลกมากที่สุดในตอนนี้ ผมทุ่มเทและศึกษามาเกือบ 3 ปี พบว่าเม็ดเงินการท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้นนั้นต้องมาจากขีดความสามารถในการดึงดูดนักท่องเที่ยวจำนวนมากขึ้น และการเพิ่มสีสันการท่องเที่ยวรูปแบบใหม่ จะต้องเปิดประเทศด้วยกระแสของความตื่นตัว และที่สุดของโลกโซเชียลในตอนนี้ซึ่งก็คือ เทศกาลดนตรีระดับโลก ที่คนทั่วโลกโหยหา อีกทั้งวัฒนธรรมของประเทศไทยที่มีเอกลักษณ์โดดเด่นที่เดียวในโลก ผมเลยให้ทีมงานช่วยติดต่อกับทาง Rolling Loud ที่เป็นงานเทศกาลดนตรีแนวแพลงฮิปฮอป ซึ่งยังไม่เคยมาจัดที่เอเชีย อีกทั้งวัฒนธรรมของศิลปินและแนวฮิปฮอป ถือว่ามีอิทธิพลที่สุดทั้งในด้านดนตรี ด้านแฟชั่นและไลฟ์สไตล์ และเพลงฮิปฮอปสามารถครองตลาดเพลงเป็นอันดับ 1 ทั่วโลกยาวนานที่สุด และที่สำคัญยังไม่มีเทศกาล World Hip Hop Music Festival ในเอเซียเลย และทุกคนคิดถึงเทศกาลสงกรานต์ ซึ่งถือว่าเป็นเทศกาลที่คนทั่วโลกเดินทางมาท่องเที่ยวร่วมสัมผัสกับประสบการณ์การสาดน้ำและความเป็นไทย จึงเป็นที่มาของการจัดงาน Rolling Loud Thailand ที่จะเป็นเทศกาลดนตรีฮิปฮอปสุดยิ่งใหญ่ระดับโลกที่ทุกคนจะได้ชุ่มฉ่ำไปกับประสบการณ์การเล่นน้ำแบบสงกรานต์ ที่จะช่วยปลุกกระแสและผลักดันประเทศไทยสู่การเป็น “World Music Destination” ที่นักท่องเที่ยวต้องนึกถึง ช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวให้หลั่งไหลเข้าสู่ประเทศไทยได้เป็นจำนวนมาก ตอบโจทย์การท่องเที่ยวของไทยให้กลายเป็น MICE HUB ในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งทางเราก็จะนำ World Music Content เข้ามาเสริมทัพเพื่อทำให้บริษัทฯ แข็งแกร่งมากขึ้น”

โดย Rolling Loud Thailand จะมาในรูปแบบเต็ม Festival ประกอบด้วย 2 เวทีใหญ่ ร่วมด้วย 66 ศิลปินระดับโลก จากประเทศสหรัฐอเมริกา  สหราชอาณาจักร และเอเชีย โดยเราคาดการณ์จำนวนคนร่วมงานอยู่ที่ 80,000 คน แบ่งเป็นชาวไทย 40% และชาวต่างชาติ 60% ซึ่งจะสร้างรายได้การจับจ่ายให้กับประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจโรงแรม และการขนส่งเดินทาง จะเกิดการจองห้องพักมากกว่า 30,000 ห้อง และการกลับมาผงาดของการท่องเที่ยวไทยกับการปั้นเมืองไทยให้เป็น Lifestyle & Entertain Destination ที่จะกลายเป็นหัวใจหลักในการร่วมสร้างรายได้ สร้างมูลค่าการท่องเที่ยวแบบยั่งยืน