- หลังจีนออกโครงการรณรงค์”จานสะอาด”ห้ามกินอาหารเหลือ
- หวั่นเกิดความไม่มั่นคงด้านอาหารจากโควิด-19กระทบห่วงโซ่ผลิต
- เหตุแต่ละปีคนจีนกินอาหารเหลือทิ้ง18ตันเลี้ยงคนได้50ล้านคน
สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า เฉวียนจี้เต๋อ (Quanjude) ภัตตาคารเป็ดปักกิ่งชื่อดังของจีนในกรุงปักกิ่ง ออกโรงเตือนลูกค้า ห้ามสั่งอาหารเกินกว่าที่จะรับประทานหมด
นายหวังเสี่ยวชาน ผู้จัดการทั่วไปของภัตตาคารเฉวียนจวี้เต๋อ สาขาถนนเฉียนเหมิน กล่าวว่า เราดำเนินการเชิงรุกตามโครงการรณรงค์ดังกล่าว และจะไม่ให้ลูกค้าสั่งอาหารมากเกินไปจนรับประทานไม่หมด
ขณะที่ลูกค้ารายหนึ่งที่เข้ามารับประทานอาหารในภัตตาคารแห่งนี้ กล่าวว่า “พวกเราโชคดีที่มีอาหารอย่างเพียงพอ และเราไม่ควรกินเหลือ ผมสนับสนุนโครงการรณรงค์นี้เต็มที่”
ภัตตาคารดังกล่าว ถือเป็นรายล่าสุดที่เข้าร่วมโครงการรณรงค์ต่อต้านอาหารเหลือทิ้ง หรือ “โครงการจานสะอาด” ที่ได้เริ่มต้นการรณรงค์ทั่วประเทศมาตั้งแต่สัปดาห์ก่อน ภายหลังจากผู้นำจีน นายสีจิ้นผิง กล่าวว่า พฤติกรรมการกินอาหารเหลือเป็นพฤติกรรมที่ “น่าละอาย” ในขณะที่ผู้คนทั้งประเทศอยู่ระหว่างการต่อสู้กับการระบาดของโควิด-19
ส่งผลให้รัฐบาลท้องถิ่น และสมาคมร้านอาหารทั่วประเทศ กระตุ้นให้ภัตตาคารและร้านอาหารที่เป็นสมาชิก จัดอาหารจานเล็กลง และมีการลงโทษสำหรับผู้ที่รับประทานอาหารเหลือทิ้ง โดยภัตตาคารแห่งหนึ่งถึงขั้นชั่งน้ำหนักลูกค้าว่าสามารถรับประทานอาหารได้เท่าไร แต่ต้องเลิกการดำเนินการไปเพราะถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักในโลกออนไลน์
ในแต่ละปี ภัตตาคาร ร้านอาหารของจีน มีอาหารเหลือทิ้งมากถึง 17-18 ล้านตัน ซึ่งเพียงพอที่จะเลี้ยงประชากรได้มากกว่า 30-50 ล้านคน สำหรับโครงการ “จานสะอาด” เกิดขึ้นหลังจากมีความกังวลถึงความไม่มั่นคงด้านอาหารของจีน เพราะห่วงโซ่การผลิตอาหารได้รับผลกระทบจากการระบาดของโควิด-19 ที่เกิดขึ้นทั่วโลก
