- กรมบัญชีกลางเร่งประชาสัมพันธ์-ปรับเงื่อนไข
- หั่นเป้าหมายลงเหลือแค่ 10,000 ร้านค้า
- ยังมั่นใจร้านค้าในโครงการเพียงพอบริการ 10 ล้านคน
นางสาวสุทธิรัตน์ รัตนโชติ อธิบดีกรมบัญชีกลาง เปิดเผยว่า หลังจากกรมบัญชีกลางเปิดรับสมัครประกอบการ ร้านค้า เข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้”ตั้งแต่วันที่ 28 ส.ค. 2562 จนถึงปัจจุบันเป็นเวลา 6 วัน มีผู้มาสมัครร่วมโครงการเฉลี่ยวันละ 500-600 ราย รวมแล้วเพียง 2,300 ร้านค้า ซึ่งน้อยกว่าเป้าเดิมที่ตั้งไว้ว่าจะมีผู้สมัครถึง 50,000 ร้านค้า ดังนั้นกรมบัญชีกลาง จึงเชิญผู้ประกอบการและร้านค้า เข้ามาฟังขั้นตอนวิธีการและประโยชน์ที่จะได้รับจากการเข้าร่วมมาตรการ ชิมช้อปใช้ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้ร้านค้าเข้าร่วมโครงการมากขึ้น
อย่างไรก็ตามกรมบัญชีกลางได้ปรับเป้าลงมาโดยคาดว่าจะมี้ร้านค้าร่วมสมัครโครงการนี้จำนวน 10,000 ร้านค้า ซึ่งเมื่อรวมกับร้านค้าธงฟ้าประชารัฐ ที่เคยติดตั้งเครื่องรับชําระเงินอิเล็กทรอนิกส์( EDC) จำนวนกว่า 34,200 ร้านค้า และร้านค้าธงฟ้าประชารัฐหรือร้านค้าทั่วไปที่ติดตั้งแอปพลิเคชัน ถุงเงินจำนวนกว่า 51,200 ร้านค้า รวมแล้วจะมีร้านค้าในโครงการนี้ประมาณ 90,000 ร้านค้า ซึ่งเพียงพอสำหรับให้บริการผู้ที่เข้าร่วมโครงการชิมช้อปใช้ จำนวน 10 ล้านคน ที่จะลงทะเบียนใช้สิทธิในวันที่ 23 ก.ย.-15พ.ย.62 แน่นอน
“ปัจจุบันกรมฯ ได้ปรับลดเงื่อนไขที่ยุ่งยากเพื่อให้ร้านค้าสมัครร่วมโครงการได้ง่ายขึ้น จากเดิมร้านค้าที่ลงทะเบียนจะต้องมีใบรับรองการจดทะเบียนการค้าของกระทรวงพาณิชย์ แต่ปัจจุบันไม่มีก็ได้ แต่ร้านค้าต้องให้หน่วยงานราชการในจังหวัดเซ็นรับรองการทำการค้ามาให้ ส่วนถ้าหากยังมีร้านค้าร่วมโครงการน้อยกว่าเป้าที่วางไว้ในวันที่ 20ก.ย.นี้ กรมฯ อาจพิจารณาขยายเวลารับสมัครออกไปด้วย ส่วนร้านค้าที่กังวลว่าถ้าหากเข้าร่วมโครงการนี้จะถูกตรวจสอบภาษีย้อนหลังนั้น ไม่ต้องกังวล เพราะโครงการนี้ดำเนินการแค่ 2 เดือน ”
สำหรับร้านค้าที่สนใจสมัครเข้าร่วมมาตรการ “ชิมช้อปใช้” สามารถกรอกใบสมัครและยื่นเอกสารได้ที่สำนักงานคลังจังหวัด 76 จังหวัดทั่วประเทศ ส่วนกรุงเทพฯ ยื่นใบสมัครได้ที่กรมบัญชีกลาง (ห้องกำปั่นเงิน) เวลา 8.30 – 16.30 น. ถึงวันที่ 20 ก.ย. 62 ไม่เว้นวันหยุดราชการ และในกรณีที่ติดขัดปัญหา เช่น ต้องมีบัญชีธนาคารกรุงไทย ธนาคารก็ได้จัดเตรียมรถโมบายของธนาคารกรุงไทยไว้ให้บริการแล้ว เป็นต้น
“ผู้ค้าสามารถเปิดบัญชีผ่านรถโมบายของกรุงไทยที่เตรียมไว้ได้เลย หรือในกรณีที่ต้องมีการรับรองการประกอบกิจการร้านค้าจากหน่วยงานราชการ กรมบัญชีกลางและสำนักงานคลังจังหวัดจะช่วยอำนวยความสะดวกให้ เช่น ไปเปิดรับสมัคร ณ ที่ว่าการอำเภอ หรือประสานเจ้าหน้าที่และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมลงพื้นที่เพื่อรับรองในใบสมัครให้ด้วย”
ทั้งนี้กรมได้ประสานงานกับกระทรวงมหาดไทยให้แจ้งหน่วยงานในสังกัดทั้งส่วนกลางและส่วนภูมิภาค ให้ช่วยดำเนินการออกหนังสือรับรองการประกอบอาชีพให้แก่ประชาชนที่มีความประสงค์จะสมัครเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว หรือร่วมลงพื้นที่กับสำนักงานคลังจังหวัดในการให้บริการรับสมัคร เพื่อเซ็นรับรองให้แก่ประชาชนในแบบฟอร์มใบสมัคร ซึ่งกรมบัญชีกลางได้กำหนดรูปแบบไว้ให้แล้ว
