“พีไอเอ็ม” สร้างเครือข่ายทั่วโลก

  • พร้อมรับกระแสความเปลี่ยนแปลง
  • เดินหน้าสร้างเครือข่ายภาครัฐ-เอกชน-ภาคการศึกษา
  • เปิดโอกาสเด็กไทยเรียนจบ มีโอกาสโกอินเตอร์

รศ.ดร.สมภพ มานะรังสรรค์ อธิการบดี สถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ (พีไอเอ็ม) เปิดเผยว่า ปัจจุบันกำลังพบเผชิญกับความเปลี่ยนแปลงหลายด้าน อาทิ Digitalization ที่ทำให้โลกขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี Disruption ที่โลกถูกปั่นป่วนด้วยเทคโนโลยีใหม่ๆ และธุรกิจใหม่ๆ ไปจนถึงเรื่องการทำงาน ที่ทุกคนต้องพร้อมจะเพิ่มทักษะใหม่ๆ หรือ Reskill อยู่เสมอ ความเปลี่ยนแปลงดังกล่าว ส่งผลมาถึงภาคการศึกษา และทำให้เยาวชนไทยจำเป็นต้องมีทักษะที่หลากหลายจากสถานประกอบการจริงมากขึ้น ไม่เฉพาะในสถานประกอบการในไทย แต่รวมไปถึงในต่างประเทศ พีไอเอ็ม ในฐานะมหาวิทยาลัยแห่งองค์กรธุรกิจ ที่ให้ความสำคัญกับการพัฒนา “คน” และการเผยแพร่องค์ความรู้จากภาคธุรกิจเข้าสู่ห้องเรียน จึงจะเดินหน้าตามวิสัยทัศน์ในการเป็นมหาวิทยาลัยเครือข่าย สร้างความร่วมมือกับทั้งหน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคการศึกษาในระดับนานาชาติทั่วโลกเพิ่มเติม เพื่อเปิดโอกาสให้นักศึกษาของพีไอเอ็มได้ไปเรียนรู้ประสบการณ์จริงจากองค์กรชั้นนำในหลากหลายประเทศ รวมถึงได้ฝึกทักษะใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการในกระแสโลก

ด้าน นายสยาม โชคสว่างวงศ์ รองอธิการบดีฝ่ายบริหาร พีไอเอ็ม กล่าวเพิ่มเติมว่า การสร้างเครือข่ายกับหน่วยงานระดับนานาชาติไม่ได้เพียงช่วยให้เด็กได้มีโอกาสไปฝึกงานเท่านั้น ยังเป็นโอกาสได้มีงานทำ อย่างในปีล่าสุดนี้มีบัณฑิตของพีไอเอ็มจำนวนหนึ่งที่มีโอกาสได้ไปทำงานต่อที่ญี่ปุ่นโดยตรงหลังเสร็จสิ้นการฝึกงาน เช่น จากคณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี คณะวิทยาการจัดการ คณะศิลปศาสตร์ เราเชื่อว่าการสร้างเครือข่ายจะเป็นส่วนสำคัญที่ช่วยยกระดับการศึกษา สร้างเยาวชนไทยให้พร้อมเป็นพลเมืองโลก

ปัจจุบัน พีไอเอ็ม มีเครือข่ายพันธมิตรที่สร้างความร่วมมือกันรวมกว่า 800 รายทั่วโลก อาทิ สถานทูต 43 แห่ง ทั้งในเอเชีย ยุโรป ออสเตรเลียและโอเชียเนีย อเมริกาเหนือและอเมริกาใต้ แอฟริกา องค์กรธุรกิจทั่วโลกเกือบ 600 แห่ง มหาวิทยาลัยราว 200 แห่งใน 34 ประเทศ ครอบคลุมอาเซียน ญี่ปุ่น จีน เกาหลีใต้ สหรัฐอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ และครอบคลุมมหาวิทยาลัยชั้นนำระดับ Top University ของโลก เช่น California Institute of Technology (USA), National University of Singapore (SINGAPORE), Waseda Univerity (JAPAN), Beijing Language and Culture University (CHINA) และ University of Helsinki (FINLAND) โดยมีความร่วมมือกันในหลากหลายรูปแบบ เช่น การเปิดโอกาสให้เด็กไปฝึกงานกับองค์กรพันธมิตรในต่างประเทศ การส่งนักศึกษาแลกเปลี่ยนไปมากับมหาวิทยาลัยชั้นนำ การมอบทุนการศึกษาโดยมหาวิทยาลัยจากต่างประเทศ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบุคลากรทางการศึกษาระหว่างกัน

“การได้รับการสนับสนุนจากเครือข่ายพันธมิตรในหลากหลายแวดวง ถือเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งให้ พีไอเอ็ประสบความสำเร็จ สามารถสร้างบุคลากรคุณภาพ เพื่อการสนับสนุนทุกวงการธุรกิจทั้งในภาครัฐ เอกชน อย่างหลากหลาย และให้นักศึกษาและบัณฑิตของเรามีโอกาสพัฒนาทักษะและมีทางเลือกใหม่ๆ ในชีวิตเพิ่มมากขึ้น เราจะเดินหน้าสร้างความร่วมมือใหม่ๆ อย่างต่อเนื่อง และพัฒนาอนาคตการศึกษาไทยอย่างยั่งยืน ส่งต่อคนคุณภาพจากรุ่นสู่รุ่นให้สังคมและประเทศไทย”

ปี 2563 นี้ ถือเป็นปีที่ดีของ พีไอเอ็ม ครบรอบ 13 ปี ที่จัดการศึกษาในระดับอุดมศึกษา ตามพันธกิจหลัก คือ ผลิตบัณฑิตที่มีคุณภาพโดยเน้นการเรียนรู้จากประสบการณ์จริง หรือ Work-based Education จัดการเรียน การสอน การวิจัย การบริการวิชาการ และทำนุบำรุงศิลปวัฒนธรรม สร้างเครือข่ายความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างสมรรถนะองค์กรและคุณค่าต่อสังคมอย่างยั่งยืน นับเป็นปีแรกที่มีบัณฑิตศึกษาจบครบจากทั้ง 10 คณะ ขณะเดียวกันยังเป็นปีที่มีบัณฑิตเรียนจบแล้วได้งานทำจำนวนมากอย่างต่อเนื่อง

โดยจากการสำรวจบัณฑิต มหาบัณฑิต และดุษฎีบัณฑิตที่เข้ารับปริญญาในปีนี้ 3,144 คน พบว่ามีอัตราบัณฑิตผู้มีงานทำแล้ว จากสถิติสูงกว่าค่าเฉลี่ยของบัณฑิตจบใหม่ ในโอกาสนี้ พีไอเอ็ม จึงจัดงานรับปริญญาภายใต้แนวคิด “PIM UniWow” เป็นงานรับปริญญาแบบเทศกาล หรือ Carnival ที่ไม่ได้เพียงมีพิธีมอบปริญญาบัตรให้แก่ผู้สำเร็จการศึกษาตามปกติ แต่ยังมีการเฉลิมฉลองอย่างสนุกสนาน เพื่อร่วมยินดีกับทั้งการสำเร็จการศึกษา และการมีงานทำ และมีทักษะพร้อมสำหรับการมีงานทำ (Ready to Work) ของเหล่าบัณฑิต โดยพิธีดังกล่าวจะจัดขึ้นในวันที่ 22-23 ก.พ.นี้ และมีการออกบูธจากเครือข่ายพันธมิตรซึ่งมาร่วมแสดงความยินดีกับผู้สำเร็จการศึกษาของพีไอเอ็มด้วย