‘พิธา’ สวมเสื้อสีรุ้ง ร่วมงาน Bangkok Pride 2023 พร้อมดันกม.สมรสเท่าเทียมใน 100 วันแรก

  • ดัน กทม.เมืองแรกแห่งเอเชียเป็นเจ้าภาพจัดงาน
  • ส่งสัญญาณว่าความรักทุกรูปแบบของสังคมไทยเป็นไปได้
  • ตั้งใจสนับสนุนเรื่องสมรสเท่าเทียม

วันที่ 4 มิถุนายน 2566 ที่ลานกิจกรรมสยามดิสคัฟเวอรี่ พรรคก้าวไกล (ก.ก.) นำโดย นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคและแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรค ก.ก. พร้อมด้วยว่าที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล จำนวน 40 คน ร่วมเดินพาเหรดในกิจกรรมบางกอกไพรด์ 2023 ซึ่งขบวนพาเหรดจะเริ่มต้นบริเวณลานกิจกรรมหน้าหอศิลปวัฒนธรรมแห่งกรุงเทพฯ เพื่อเดินไปยังห้างสรรพสินค้า Central World โดยนายพิธาจะขึ้นเวทีเพื่อสื่อสารแนวทางการดำเนินนโยบายของพรรคในประเด็นการสร้างความเสมอภาคทางเพศในประเทศไทย เวลา 18.30 น.

โดยเมื่อเวลา 15.30 น. นายพิธาสวมเสื้อสีรุ้ง แสดงถึงความหลากหลายทางเพศ เดินทางเข้าร่วมงานบางกอกไพรด์ 2023 ด้วยวินจักรยานยนต์รับจ้าง

นายพิธาเปิดเผยว่า ดีใจที่มีงานบางกอกไพรด์ในวันนี้ ทำให้เห็นว่าเป็นการส่งสัญญาณไปทั่วโลกว่าความรักทุกรูปแบบของสังคมไทยเป็นไปได้ และเป็นการส่งสัญญาณไปถึงโลกว่าความรักมีโอกาสที่จะชนะในหลายๆ เรื่อง ในสิ่งที่โลกอาจจะคาดคิดไม่ถึงมาก่อน

นายพิธาระบุว่า การมาร่วมฉลองกันในวันนี้ไม่ได้แค่เป็นพาเหรด หรือสัญลักษณ์เท่านั้น แต่เมื่อรัฐบาลตั้งได้เมื่อไรก็ตั้งใจสนับสนุนเรื่องสมรสเท่าเทียมและการรับรองอัตลักษณ์ทางเพศ รวมทั้งเรื่องสวัสดิการ

นายพิธากล่าวต่อว่า 2-3 เรื่องนี้จะเป็นเรื่องที่ทำให้การเฉลิมฉลองความหลากหลายในเดือนแห่งไพรด์ให้เป็นเรื่อง Pride Always คนจะได้มองประเทศไทยว่าเป็นพื้นที่เปิดเผยได้ เป็นพื้นที่ปลอดภัย เป็นพื้นที่ที่จะทำให้คนเป็นตัวของตัวเองได้มากที่สุด และลบคำครหาต่างๆ เพราะบางคนมีความรักในอาชีพของเขา แต่เป็นไม่ได้ เพราะเพศสภาพไม่ได้รับการยอมรับ บางคนวางแผนครอบครัว วางแผนภาษี ซื้อประกันให้คนที่เรารักก็ไม่สามารถทำได้

ดังนั้น การที่เราทำแบบนี้ได้จะแสดงให้เห็นถึงความพร้อมและสิ่งที่เราเชื่อว่าเป็นคุณค่าที่คนไทยเชื่อร่วมกัน และเป็นการสร้างสังคมที่ดีขึ้น หวังว่างาน World Pride 2028 จะมาจัดที่ กทม. ประเทศไทย เป็นประเทศในเอเชียประเทศแรกของการจัดเทศกาลนี้ โดยจะมีผลพวงเรื่องเศรษฐกิจตามมา

เมื่อถามว่าจะผลักดัน พ.ร.บ.สมรสเท่าเทียมเข้าสู่สภาใน 100 วันแรกหรือไม่ นายพิธากล่าวว่า ใช่ น่าจะภายใน 100 วันแรกเช่นเดียวกัน เพราะเป็นเรื่องที่คาอยู่แล้ว คณะกรรมาธิการทำงานเสร็จแล้ว แม้แต่วิปรัฐบาลชุดก่อนก็บอกว่าไม่มีปัญหา ดังนั้น หากนำเข้าสภาไม่ว่าจะเป็นพรรคก้าวไกล หรือพรรคเพื่อไทยจะทำให้ผ่านสภาได้อย่างรวดเร็ว ในที่สุดจะแสดงให้โลกเห็นว่าความหลากหลายไม่ได้เป็นจุดอ่อนของประเทศนี้ แต่เป็นจุดแข็ง และคิดว่าอะไรดีๆ จะตามมามากมายไม่ใช่แค่เรื่องเศรษฐกิจ เป็นเรื่องสิทธิสวัสดิการ เศรษฐกิจเป็นแค่เรื่องสุดท้ายเท่านั้น