“พายุอัสนี” แผลงฤทธิ์! ฝนกระหน่ำหนักภาคใต้ นครศรีธรรมราชจมบาดาล น้ำท่วมฉับพลันหลายพื้นที่

  • กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ เผยเฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ใน จ.นครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 10 – 17 พ.ค.65
  • เผยวันนี้ พื้นที่ อ.เมือง อ.พรหมคีรี อ.ท่าศาลา และ อ.ลานสกา มีฝนตกหนัก
  • ล่าสุดเมื่อช่วงเย็น ฝนเริ่มทิ้งช่วง ระดับน้ำที่ท่วมขัง รอระบายบนถนนสายต่างๆ เริ่มลดระดับลดแล้ว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังกรมอุตุนิยมวิทยา มีประกาศฉบับที่ 11 (100/2565) ลงวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 เวลา05.00 น.แจ้งพายุไซโคลนกำลังแรง “อัสนี” บริเวณชายฝั่งสาธารณรัฐอินเดียตอนกลาง คาดว่าจะเคลื่อนขึ้นฝั่งประเทศอินเดียตอนกลางช่วงวันที่ 11 -12 พฤษภาคม 2565 โดยลักษณะเช่นนี้อาจส่งผลให้ลมที่พัดปกคลุมประเทศไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ทำให้ยังคงมีฝนตกต่อเนื่อง และมีฝนตกหนักบางพื้นที่ 

โดยกองอำนวยการน้ำแห่งชาติ ประเมินสถานการณ์น้ำจากฝน คาดการณ์ของกรมอุตุนิยมวิทยุและสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ (องค์การมหาชน) พบว่า ปริมาณฝนตกสะสม อาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก รวมทั้งทำให้พื้นที่ที่มีน้ำท่วมขังอยู่เดิม มีแนวโน้มระดับน้ำเพิ่มขึ้น โดยมีพื้นที่เฝ้าระวังสถานการณ์ น้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก บริเวณจังหวัดนครศรีธรรมราช ระหว่างวันที่ 10 – 17 พฤษภาคม 2565

ทั้งนี้ล่าสุดเมื่อเวลา 14.00 น.วันนี้ (11 พ.ค.) มีรายงานว่า พื้นที่จังหวัดนครศรีธรรามราช เกิดฝนตกหนักติดต่อกันต่อเนื่อง โดยเฉพาะบริเวณน้ำตกอ้ายเขียว อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช โดยปริมาณฝนที่ตกอย่างหนัก ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก คาดทำให้ระดับน้ำในลำคลองสายต่างๆ มีระดับสูงขึ้น และอาจเกิดน้ำท่วมที่ราบต่ำและพื้นที่การเกษตร นอกจากนี้ในพื้นที่ อ.เมือง อ.พรหมคีรี อ.ท่าศาลา และ อ.ลานสกา ก็ยังมีฝนตกหนักอย่างต่อเนื่องเช่นกัน

ขณะที่เขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ฝนที่ตกกระหน่ำลงมาอย่างหนัก เป็นเวลานานกว่า 1 ชั่วโมง กระทั่งเกิดน้ำท่วมขังรอการระบายบนพื้นผิวถนนหลายสายในเขตเทศบาลนครนครศรีธรรมราช โดยเฉพาะบริเวณ ถนนสายกะโรมสามแยกโพธิ์เสด็จ หน้าปั๊ม ปตท. ถนนสายศรีปราชญ์ ถนนสายมุมป้อม ถนนปากนคร หน้าตลาดสดคูขวาง ถนนเพนียด  ถนนสายท่าโพธิ์ และอีกหลายสาย โดยมีระดับน้ำท่วมขังรอระบายสูง 20 – 30 ซม. ทำให้รถเล็กผ่านสัญจรด้วยความยากลำบาก 

อย่างไรก็ตามล่าสุดเมื่อเวลาประมาณ 15.30 น. สถานการณ์ในพื้นที่ดังกล่าว ฝนเริ่มทิ้งช่วง ระดับน้ำที่ท่วมขังรอระบายบนถนนสายต่างๆ เริ่มลดระดับลด คาดว่าหากไม่มีฝนลงตกซ้ำอีกระบอก สถานการณ์จะกลับสู่ภาวะปกติโดยเร็ว