- แม้ได้มูลค่าสูงสุดในรอบปีที่2.19หมื่นล้านเหรียญฯ
- ผลพวงสงครามการค้า-ศก.โลกชะลอ-ราคาน้ำมันดิ่งบาทแข็ง
- ลุ้นทั้งปีโตได้3%ตามเป้าหมายท่ามกลางสารพัดปัจจัยลบอื้อ
นางสาวพิมพ์ชนก วอนขอพร ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) เปิดเผยถึงสถิติการค้าระหว่างประเทศของไทยว่า ในเดือนส.ค.62 การส่งออกมีมูลค่า 21,914.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ สูงสุดในรอบปี แต่อัตราขยายตัวลดลง 4% เมื่อเทียบกับเดือนส.ค.61 เป็นการลดลงอีกครั้งหลังจากเดือนก.ค.62 ที่เพิ่มขึ้น 4.28% ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 19,862.4 ล้านเหรียญฯ ลดลง 14.62% กลับมาลดลงอีกครั้งเช่นกันหลังจากเดือนก.ค.62 เพิ่มขึ้น 1.67% โดยมีดุลการค้าเกินดุล 2,052.6 ล้านเหรียญฯ
อย่างไรก็ตาม การส่งออกเดือนส.ค.62 หากหักมูลค่าการส่งออกทองคำ และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันออก จะลดลงสูงถึง 7.3% เนื่องจากเดือนส.ค.62 มีการส่งออกทองคำเพิ่มขึ้นถึง 377.5% ส่วนในช่วง 8 เดือน (ม.ค.-ส.ค.) ปี 62 การส่งออกมีมูลค่า 166,090.6 ล้านเหรียญฯ ลดลง 2.19% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนการนำเข้ามีมูลค่า 159,984.4 ล้านเหรียญฯ ลดลง 3.61% โดยมีดุลการค้าเกินดุล 6,106.1 ล้านเหรียญฯ
สาเหตุที่ทำให้การส่งออกลดลง มาจากผลกระทบจากสงครามการค้า ที่ทำให้เศรษฐกิจโลกชะลอตัวลง , ปัญหาในตะวันออกกลางที่ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่น, บางประเทศในยุโรปต้องการซื้อสินค้าลดลง, ราคาน้ำมันดิบอยู่ในระดับต่ำ ล่าสุดประมาณ 50 เหรียญฯต่อบาร์เรล จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 70 เหรียญฯ ส่งผลให้มูลค่าส่งออกน้ำมัน และสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมันลดลง และเงินบาทแข็งค่า กดดันต่อการส่งออกสินค้าเกษตร และยังมีส่วนเกินของสินค้าเกษตรในตลาดโลก ทำให้ความต้องการลดลง
น.ส.พิมพ์ชนก กล่าวว่า ในช่วงที่เหลือของปีนี้ (ก.ย.-ธ.ค.) หากจะส่งออกให้ได้ตามเป้าหมาย 3% จากปีก่อน แต่ละเดือนต้องส่งออกให้ได้ 23,600 ล้านเหรียญฯ แต่ถ้าได้เพียงเดือนละ 21,000 ล้านเหรียญฯ ทั้งปีจะขยายตัวเป็นบวกที่ 0% ขึ้นไป แต่ต้องระวังปัจจัยเสี่ยง จากภาวะเศรษฐกิจโลกที่ชะลอตัวลง ทำให้กำลังซื้อทั่วโลกลดลง, ปัญหาในยุโรป และการออกจากสหภาพยุโรปของอังกฤษ, ราคาน้ำมัน ที่ลดลง ยังกระทบต่อการส่งออกน้ำมันและสินค้าที่เกี่ยวเนื่องกับน้ำมัน, ตลาดจีน ที่หดตัว หากเศรษฐกิจจีนชะลอตัว จะกระทบต่อเนื่อง และค่าเงินบาที่แข็งค่า
