พาณิชย์เผยผู้นำเข้าข้าวฮ่องกง 34 ราย ลุยซื้อข้าวไทย

  • คาดไม่ต่ำกว่า 8 หมื่นตัน รวม 2.7 พันล้านบาท
  • ทูตพาณิชย์ฮ่องกงชี้เป็นโอกาสขยายส่วนแบ่งตลาด
  • มั่นใจปี 66 สถานการณ์ค้าข้าวไทย-ฮ่องกงดีแน่นอน

นายกีรติ รัชโน ปลัดกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21-24 พ.ย.ที่ผ่านมา ได้เชิญคณะผู้นำเข้าข้าวรายใหญ่ฮ่องกง 34 รายเดินทางเจรจาการค้าในไทย รวมทั้งส่งเสริมและสร้างการรับรู้สัญลักษณ์ข้าวไทยสีเขียว (Thai Hom Mali Rice Certification Mark) ว่าข้าวหอมมะลิไทยที่ขายในฮ่องกง หากมีตราสัญลักษณ์ดังกล่าว ผู้ซื้อมั่นใจได้ถึงคุณภาพ มาตรฐานระดับสูง โดยนายกสมาคมพ่อค้าข้าวฮ่องกง ย้ำว่า การเดินทางมาไทยครั้งนี้ เพื่อกระชับความสัมพันธ์และเจรจาการค้ากับผู้ส่งออกข้าวไทย เบื้องต้นจะมีปริมาณการซื้อขาย 81,200 ตัน มูลค่าการค้าไม่น้อยกว่า2,700 ล้านบาท 

ด้านนางชณันภัสร์ พิศาลอภิพงศ์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ ณ เมืองฮ่องกง กล่าวว่ารัฐบาลฮ่องกงผ่อนคลายมาตรการควบคุมโควิด-19 และเปิดให้มีการเดินทางเข้า-ออกฮ่องกงได้สะดวกมากยิ่งขึ้นประกอบกับผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง ได้นำคณะนักธุรกิจฮ่องกงเดินทางเยือนไทยในช่วงการประชุมเอเปก จึงเป็นช่วงเวลาเหมาะสมที่จะขยายส่วนแบ่งทางการตลาดข้าวไทยในฮ่องกง ส่วนการค้าข้าวปี 66 ระหว่างไทย-ฮ่องกงจะดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพราะฮ่องกงได้เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าประเทศ และการบริโภคจะกลับมาสู่ภาวะก่อนเกิดโควิด 

ทั้งนี้ ฮ่องกงเป็นตลาดส่งออกข้าวที่มีศักยภาพของไทย และเป็นตลาดใหญ่ที่สุดลำดับที่ 5 มีปริมาณการส่งออก174,932 ตัน คิดเป็นมูลค่า 158.04 ล้านเหรียญสหรัฐฯในปี 64 และชาวฮ่องกงนิยมบริโภคข้าวหอมมะลิใหม่ คิดเป็น 80% และมีอัตราการบริโภคข้าวเฉลี่ย 44 กิโลกรัม/คน/ปี โดยฮ่องกงนำเข้าข้าวหอมมะลิจากไทยมากเป็นลำดับ2 รองจากสหรัฐฯ ส่วนปัจจัยสำคัญที่มีผลต่อการเลือก ซื้อข้าวคือ ชนิด คุณภาพ และรสชาติ 

ส่วนนางสาวสิริบุษย์ อึ๊งภากรณ์ ผู้อำนวยการกองบริหารการค้าข้าว กรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ได้นำคณะผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงเยี่ยมชมดูงานด้านการผลิตและแปรรูปข้าวในจังหวัดอยุธยา รวมทั้งศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าวมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในคุณภาพมาตรฐานข้าวไทย ซึ่งผู้นำเข้าข้าวฮ่องกงสนใจข้าวเพื่อสุขภาพอย่างมาก โดยเฉพาะข้าว กข 43 ซึ่งเป็นข้าวขาวนุ่ม มีค่าดัชนีน้ำตาลในระดับปานกลางต่ำ และข้าวไรซ์เบอร์รี่ที่เหมาะสำหรับผู้บริโภคที่ต้องการดูแลสุขภาพ โดยผู้นำเข้าแจ้งว่า ตลาดข้าวเพื่อสุขภาพมีโอกาสเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องจากเทรนด์การรักษาสุขภาพ ทำให้เข้าถึงกลุ่มผู้บริโภคชาวฮ่องกงที่มีกำลังซื้อสูงได้