พาณิชย์เปิดโพย 10 ธุรกิจดาวเด่นปี 65

.รับอานิสงส์คนซื้อขายออนไลน์-โควิดระบาด
.มีทั้งค้าขายออนไลน์-ขนส่ง-ยา สมุนไพร
.ย้ำปีนี้ธุรกิจมีสัญญานดีขึ้นหลังโควิดลดรุนแรง

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ได้วิเคราะห์ธุรกิจที่มีแนวโน้มการเติบโตที่น่าสนใจ และเป็นธุรกิจดาวเด่นปี 65 จำนวน 10 ธุรกิจ โดยวิเคราะห์จากข้อมูลทางธุรกิจ ทั้งสถิติการจดทะเบียนจัดตั้งธุรกิจ จำนวนธุรกิจที่ดำเนินกิจการ งบการเงิน ผลประกอบธุรกิจ ปัจจัยทางธุรกิจและเศรษฐกิจอื่นๆ รวมถึงการระบาดของโควิด-19 ซึ่งทั้ง 10 ธุรกิจมีดังนี้ 1.ธุรกิจ อี-คอมเมิร์ซ ได้แก่ ธุรกิจค้าปลีกออนไลน์ และแพลตฟอร์มเพื่อการค้าออนไลน์ โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโควิด-19 รวมทั้งผู้ประกอบการค้าขายผ่านออนไลน์มากขึ้น

2.ธุรกิจขนส่ง โลจิสติกส์ ได้แก่ ธุรกิจรับส่งเอกสารและสิ่งของ (ดีลิเวอรี่) และธุรกิจขนส่งโลจิสติกส์ เพราะได้รับอานิสงส์จากการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซ 3.ธุรกิจเวชภัณฑ์และแปรรูปสมุนไพร มีปัจจัยหนุนจากโควิด-19 เพื่อบรรเทาและป้องกันสุขอนามัยของตนเองและครอบครัว 4.ธุรกิจด้านเทคโนโลยี ได้แก่ ธุรกิจจัดทำโปรแกรมคอมพิวเตอร์ และโปรแกรมเว็บเพจ ธุรกิจบริการเทคโนโลยีสารสนเทศ และธุรกิจบริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูล

5.ธุรกิจรีไซเคิล ได้รับอิทธิพลมาจากรูปแบบการประกอบธุรกิจให้ยั่งยืน โดยคำนึงถึงการรักษาสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมมาภิบาล 6.ธุรกิจเครื่องสำอาง จากกระแสการดูแลสุขภาพ การดูแลตนเอง 7.ธุรกิจขายปลีกสัตว์เลี้ยงและอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้อง 8. ธุรกิจดูแลผู้สูงอายุ 9.ธุรกิจกล่องกระดาษและบรรจุภัณฑ์กระดาษ จากการซื้อสินค้าผ่านออนไลน์มากขึ้น และ10.ธุรกิจโฆษณา เพราะโควิดทำให้ไม่สามารถจัดกิจกรรมทางการตลาดในพื้นที่สาธารณะได้ ทำให้การทำโฆษณาโดยเฉพาะช่องทางออนไลน์ได้รับความนิยมมากขึ้น

“ปี 65 การประกอบธุรกิจจะมีสัญญาณการฟื้นตัวที่ดีขึ้นเพราะการระบาดของโควิดน่าจะลดความรุนแรงลงและเศรษฐกิจฟื้นตัว ผู้ประกอบการที่กำลังจะลงทุนประกอบธุรกิจ และกำลังมองหาธุรกิจที่น่าสนใจ 10 ธุรกิจดังกล่าว น่าสนใจมาก แต่นอกจากกระแสความนิยมแล้ว ความชื่นชอบและความถนัดต้องคำนึงถึงด้วย เพราะการลงทุนมีความเสี่ยง การลงทุนทำธุรกิจต้องมีรอบคอบให้มากที่สุด สำหรับ 10 ธุรกิจดาวเด่น มีมูลค่าตลาดรวมกว่า 1.32 ล้านล้านบาท ตามงบการเงินปี 63 และมีธุรกิจคงอยู่ ณ สิ้นปี 64 จำนวน 49,117 ราย ทุนจดทะเบียนรวม 482,576.70 ล้านบาท”