“พาณิชย์”เปิดขายหน้ากากอนามัยแล้ว

“พาณิชย์” เปิดขายหน้ากากอนามัยวันแรก (8ก.พ.) ชิ้นละ 2.50 บาท จำกัดการซื้อไม่เกิน 10 ชิ้น “จุรินทร์” ย้ำ ขายชิ้นละ 2.50 บาทเหมาะสมกับต้นทุน

ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์่ว่า วานนี้ (8ก.พ.) กระทรวงพาณิชย์ได้เปิดจำหน่ายหน้ากากอนามัยให้กับประชาชน ที่กระทรวงพาณิชย์ จังหวัดนนทบุรี โดยจำหน่ายราคาชิ้นละ 2.50 บาท จำกัดการซื้อไม่เกินคนละ 10 ชิ้น โดยมีนายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฎ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ มาเป็นประธานในการคิกออฟ

โดยนายจุรินทร์ กล่าวว่า โครงการนี้ นอกจากจำหน่ายที่กระทรวงพาณิชย์แล้ว ยังกระจายไปทุกอำเภอทั่วประเทศ ผ่านร้านธงฟ้า ในราคาชิ้นละ 2.50 บาท ตั้งเป้าหมาย 10 ล้านชิ้นทั่วประเทศ ซึ่งหน้ากากอนามัย เจลล้างมือ รวมถึงวัตถุดิบสำหรับผลิตหน้ากากและเจล เป็นสินค้าควบคุม และได้สั่งให้กรมการค้าภายในประสานกับโรงงานผู้ผลิตทั้ง 10 โรงงานเร่งผลิตเพื่อให้ทันความต้องการของประชาชน โดยภาครัฐจะจำหน่ายที่ทำเนียบรัฐบาลต่อเนื่องเป็นเวลา 15 วัน จำนวน 300,000 ชิ้น และแบ่งมาขายที่กระทรวงพาณิชย์ 200,000 ชิ้น ร้านธงฟ้าทั่วประเทศ 820 ร้านค้า อีก 500,000 ชิ้น

“ส่วนกรณีที่องค์การเภสัชกรรมเปิดขายหน้ากากอนามัยชิ้นละ1 บาทนั้น ต้องสอบถามต้นทุนว่า มีต้นทุนเท่าไร ซึ่งของกระทรวงพาณิชย์ การที่จำหน่ายชิ้นละ 2.50 บาทนั้น เป็นราคาที่เหมาะสมและเป็นธรรม สอดคล้องกับต้นทุนของผู้ประกอบการ”

ด้านนายวิชัย โภชนกิจ อธิบดีกรมการค้าภายใน กล่าวว่า การจำกัดการซื้อหน้ากากอนามัยคนละ 10 ชิ้นนั้นเพื่อให้ประชาชนสามารถหาซื้อได้อย่างทั่วถึง และน่าจะเพียงพอใช้ได้ในช่วง 10 วันนี้ รวมถึงเป็นการป้องกันปัญหาการกักตุนจน ทำให้เกิดสินค้าขาดตลาด ประกอบกับ เชื่อว่า ในระยะเวลา 10 วันนี้ สถานการณ์จะเริ่มดีขึ้น ซึ่งได้ประสานโรงงานต่างๆ ให้เพิ่มกำลังการผลิตแล้ว ยืนยันว่า โรงงานผลิตมีความพร้อม และเร่งผลิตได้วันละ 5 ล้านชิ้น แต่ปัญหาคือ ไม่ทราบว่าสถานการณ์ไวรัสโคโรนาจะรุนแรงมากขึ้นเพียงใด

“ส่วนกรณีที่หน้ากากอนามัยขาดตลาดนั้น ส่วนหนึ่งพบว่า มีการซื้อเพื่อการส่งออกและเก็งกำไร รวมถึงอ้างการบริจาค ซึ่งกรมได้ขอให้ผู้ส่งออกชะลอการส่งออกเกือบทุกล็อต และจะพิจารณาการส่งออกเป็นรายตามความเหมาะสม เพื่อไม่ให้สินค้าขาดแคลน และหากส่งออกเกิน 500 ชิ้นต้องขออนุญาตก่อน ทำให้ผู้ส่งออกนำหน้ากากอนามัยมาขายผ่านออนไลน์จำนวนมาก โดยผู้ค้าทางออนไลน์จะต้องแจ้งปริมาณการครอบครองให้กรมทราบด้วย และกรมได้ประสานกับ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี ให้ช่วยตรวจสอบการค้าด้วย หากพบมีการทำผิดกฎหมาย เช่น ขายแพงเกิน จะดำเนินคดีทันที”