พาณิชย์เตรียม4มาตรการลดผลกระทบถูกตัดจีเอสพีเม.ย.นี้

  • ทั้งเพิ่มสภาพคล่อง-เป็นพี่เลี้ยงขยายตลาดส่งออก
  • อำนวยสะดวกการค้า-สร้างมูลค่าเพิ่มสินค้าไทย
  • จับมือหน่วยงานเกี่ยวข้องช่วยเหลืออย่างมีประสิทธิภาพ

นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า เมื่อเร็วๆ นี้ กรมได้เชิญภาคเอกชนในกลุ่มสินค้า 573 รายการ ที่สหรัฐฯประกาศจะตัดสิทธิพิเศษทางภาษีศุลกากร (จีเอสพี) ในเดือนเม.ย.63 เช่น อาหารปรุงแต่ง เซรามิก เคมีภัณฑ์ เครื่องหนังฟอก กลุ่มไฟฟ้าอิเล็กทรอนิกส์ กลุ่มเหล็ก เป็นต้น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาหารือเพื่อหาแนวทางรองรับผลกระทบที่เกิดขึ้นจากการถูกตัดสิทธิ ซึ่งเป็นการดำเนินการควบคู่ไปกับการเจรจากับสหรัฐฯ ขอคืนสิทธิ

ทั้งนี้ ที่ประชุมได้สรุปมาตรการระยะสั้น และระยะยาว ที่รัฐสามารถดำเนินการได้ 4 แนวทาง คือ ด้านการเงิน เพื่อเพิ่มสภาพคล่องและเข้าถึงแหล่งเงินทุน ซึ่งขณะนี้กำลังหารือกับธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เช่น อาจจะลดค่าธรรมเนียมในการทำธุรกรรมให้กับผู้ส่งออก เป็นต้น, ด้านตลาด เช่น เร่งทำข้อตกลงทางการค้าโดยเฉพาะกับสหภาพยุโรป (อียู) และความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (อาร์เซ็ป) เพื่อให้ผู้ส่งออกมีตลาดส่งออกใหม่ๆ นอกเหนือจากสหรัฐฯ สนับสนุนกิจกรรมการขยายตลาดใหม่ โดยการจัดแสดงสินค้าในต่างประเทศ การจัดคณะนักลงทุน/นักธุรกิจร่วมกิจกรรมเจรจาธุรกิจ รวมถึงสนับสนุนในลักษณะเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาในการเข้าสู่ตลาดใหม่

นอกจากนี้ ยังมีด้านการอำนวยความสะดวก เช่น ลดต้นทุนการผลิต ลดขั้นตอนและค่าใช้จ่ายในการนำเข้า-ส่งออกสินค้า และด้านการเพิ่มมูลค่าให้กับสินค้าและสร้างนวัตกรรม เช่น ส่งเสริมการลงทุนวิจัยและพัฒนา (อาร์ แอนด์ ดี) สนับสนุนการนำงานวิจัยมาต่อยอดเชิงพาณิชย์ และสร้างผู้ประกอบการหน้าใหม่ (สตาร์ตอัพ) /ผู้ประกอบการสินค้านวัตกรรมในตลาดสหรัฐฯ ในระยะต่อไป

”แนวทางดังกล่าว กระทรวงพาณิชย์ จะดำเนินการร่วมกับภาครัฐและภาคเอกชนที่เกี่ยวข้อง เพื่อลดผลกระทบให้กับผู้ส่งออกในกลุ่มสินค้าที่จะถูกตัดจีเอสพี ขณะเดียวกัน ยังรอให้ผู้ส่งออกรายกลางและเล็ก (เอสเอ็มอี) ที่น่าจะได้รับผลกระทบมาก แจ้งข้อมูลเพิ่มเติมว่า มีสิ่งใดที่ต้องการให้รัฐบาลช่วยเหลืออีกหรือไม่ อย่างไร เพื่อจะได้หามาตรการช่วยเหลือที่ตรงกับความต้องการมากที่สุด ซึ่งทำให้การช่วยเหลือมีประสิทธิภาพ และเป็นประโยชน์กับผู้ส่งออกมากที่สุด”