พาณิชย์ผลักดันสินค้าชุมชนขึ้นทะเบียน“ลูกหยียะรัง-ข้าวหอมมะลิพะเยา ”เป็นสินค้า GI



.กระทรวงพาณิชย์เดินหน้าผลักดันสินค้าชุมชนต่อเนื่อง

.ขึ้นทะเบียน“ลูกหยียะรัง” และ “ข้าวหอมมะลิพะเยา” เป็นสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์

.คาดเพิ่มมูลค่าสินค้าดึงอัตลักษณ์ชุมชนฟื้นฟูเศรษฐกิจท้องถิ่นอย่างยั่งยืน

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้เร่งผลักดันการคุ้มครองสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ และส่งเสริมการต่อยอด เชิงพาณิชย์โดยใช้ประโยชน์จากการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เพื่อฟื้นฟูและสร้างความเข้มแข็งให้เศรษฐกิจฐานรากอย่างยั่งยืน รวมทั้งเป็นการรักษามาตรฐานของสินค้าและภูมิปัญญาท้องถิ่น สร้างความเชื่อมั่นในแหล่งที่มาและคุณภาพของสินค้า ตลอดจนช่วยเพิ่มมูลค่าให้สินค้าด้วยความเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่สามารถผลิตได้เฉพาะท้องถิ่น ล่าสุดกระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสินค้า GI เพิ่มอีก 2 รายการ คือ ลูกหยียะรัง ของจังหวัดปัตตานี และข้าวหอมมะลิพะเยา ของจังหวัดพะเยา ทำให้ปัจจุบันมีการประกาศขึ้นทะเบียนสินค้า GI ไทยไปแล้วทั้งสิ้น 130 รายการ”



สำหรับสินค้า GI 2 รายการล่าสุด มีเอกลักษณ์โดดเด่น ดังนี้ (1) ลูกหยียะรัง ขึ้นทะเบียน GI ทั้งแบบผลและแบบแปรรูป ลูกหยียะรัง มี 2 สายพันธุ์ ได้แก่ ลูกหยีพันธุ์ทวยหรือทวยงาช้าง และพันธุ์หยีธรรมดาหรือหยีบ้าน มีผลใหญ่ ผิวเปลือกบางสีดำ เนื้อในหนายุ่ยสีแดงหรือแสด รสชาติเปรี้ยวอมหวานหรือเปรี้ยวอมฝาด ปลูกในเขตพื้นที่จังหวัดปัตตานี มากกว่า 100 ปี ประกอบกับภูมิปัญญาชาวบ้านในการเก็บรักษาผลลูกหยี และแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ อาทิ ลูกหยีทรงเครื่อง ลูกหยีฉาบ ลูกหยีกวน ที่มีรสชาติเป็นเอกลักษณ์ อันเป็นสูตรดั้งเดิม ที่คนในพื้นที่ถ่ายทอดสืบต่อกันมา (2) ข้าวหอมมะลิพะเยา ขึ้นทะเบียน GI ครอบคลุมทั้งข้าวเปลือก ข้าวกล้อง และข้าวขาว ที่แปรรูปมาจากข้าวหอมมะลิพันธุ์ขาวดอกมะลิ 105 และ กข 15 เมล็ดข้าวสารมีรูปร่างเรียว ยาว เมล็ดใส เมื่อหุงแล้วนุ่ม มีกลิ่นหอมคล้ายใบเตย แม้ทิ้งไว้นานก็ยังคงกลิ่นหอม ปลูกในพื้นที่ลุ่มล้อมรอบด้วยเทือกเขาหรือแอ่งที่ทับถมด้วยตะกอนแม่น้ำทำให้ดินมีแร่ธาตุอุดมสมบูรณ์ โดยจังหวัดพะเยานับเป็นหนึ่งในแหล่งเพาะปลูกข้าวหอมมะลิที่ดีที่สุดแห่งหนึ่งของไทยมาอย่างช้านาน

นายวีรศักดิ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า นอกจากการส่งเสริมการขึ้นทะเบียน GI แล้ว กระทรวงพาณิชย์โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ส่งเสริมความรู้เรื่องการใช้ประโยชน์จากตราสัญลักษณ์ GI ในเชิงพาณิชย์ การคุ้มครองและควบคุมคุณภาพ ตลอดจนสนับสนุนช่องทางการตลาดแก่ผู้ประกอบการมาอย่างต่อเนื่อง โดยเร็วๆ นี้ จะมีการจัดกิจกรรมตลาด GI ในวันที่ 15 – 18 กันยายน 2563 ณ ศูนย์การค้า เอ็ม บี เค เซ็นเตอร์ จึงอยากเชิญชวนทุกท่านร่วมสนับสนุนผู้ประกอบการไทยและสินค้าคุณภาพจากชุมชนท้องถิ่น

“ซึ่งนอกจากจะได้เป็นส่วนหนึ่งในการช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจท้องถิ่นแล้วยังจะได้รับสินค้าและผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพตามมาตรฐาน GI กลับไปอีกด้วย”