พาณิชย์ปลื้ม! ยอดค้าชายแดน-ผ่านแดนทะยาน

.แค่ 4 เดือนแรกปีนี้โกยรายได้แล้วกว่า 5.2 แสนล้านบาท

.หลังเศรษฐกิจเพื่อนบ้านฟื้น-รัฐจับมือเอกชนลุยแก้ปัญหา

.เชื่อปีนี้ทำยอดได้เกินเป้าหมาย 1.4 ล้านล้านบาทแน่นอน

นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ เปิดเผยถึงสถิติการค้าชายแดนและผ่านแดน ของไทยในช่วง 4 เดือน (ม.ค.-เม.ย.) ปี 64 ว่า สามารถทำเงินเข้าประเทศได้มูลค่า 526,220 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 26.24% จากช่วงเดียวกันของปี 63 โดยแบ่งเป็นการค้าชายแดน มูลค่า 295,381 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 16.78% โดยมาเลเซีย มูลค่า 107,098 ล้านบาท เพิ่ม 52.87%, ลาว 71,165 ล้านบาท เพิ่ม 13.49%, เมียนมา 60,182 ล้านบาท ลด 0.002% และกัมพูชา 56,935 ล้านบาท ลด 4.5% และการค้าผ่านแดน มูลค่า 230,839 ล้านบาท เพิ่ม 41.93% โดยจีน มูลค่า 102,271 ล้านบาท เพิ่ม 54.25%, สิงค์โปร์ 36,161 ล้านบาท เพิ่ม 34.57%, เวียดนาม 22,362 ล้านบาท เพิ่ม 22.47% และประเทศอื่นๆ 70,045 ล้านบาท เพิ่ม 36.79% 

 “การค้าชายแดนและผ่านแดนที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น เป็นผลของการทำงานร่วมกันระหว่างกระทรวงพาณิชย์ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง และภาคเอกชน ในการแก้ไขปัญหาอุปสรรคที่ติดขัด แก้ไขปัญหาด้านการขนส่ง เร่งรัดเปิดด่าน ทำให้เราผลักดันการค้าชายแดน และผ่านแดนจนเป็นบวกได้ และทำให้มูลค่าส่งออกในภาพรวมของไทยเป็นบวกในช่วงวิกฤติโควิด-19” 

นายจุรินทร์ กล่าวว่า ส่วนปัญหามาเลเซียล็อกดาวน์ มีผลกระทบต่อการส่งออกของไทยบ้าง  แต่ในภาพรวมการค้าชายแดนยังทำได้ดี และเมียนมา ที่มีปัญหาทางการเมืองในประเทศ จนกระทบต่อการค้ากับไทยบ้างในช่วงแรก แต่ปัจจุบันได้กลับมาทรงตัวแล้ว อย่างไรก็ตาม จะเร่งรัดการเปิดด่านชายแดนให้มากขึ้น จากปัจจุบันมีด่านการค้าระหว่างไทยกับเพื่อนบ้านทั้งสิ้น 97 ด่าน และปิด 51 ด่าน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโควิด-19  มีเปิดเพียง 46 ด่าน ซึ่งในเร็วๆ นี้ จะผลักดันให้เปิดด่านที่สำคัญกับการส่งออกของไทย 9 ด่าน ได้แก่ 1.ด่านแม่สาย จ.เชียงราย 2.ด่านบ้านแจมป๋อง จ.เชียงราย 3.เชียงคาน จ.เลย 4.ด่านบ้านหม้อ จ.หนองคาย 5.ด่านท่าเรือหนองคาย 6.ด่านท่าเทียบเรือนครพนม 7.ด่านท่าเทียบเรือมุกดาหาร 8.ด่านบ้านปากแซง จ.อุบลราชธานี และ 9.ด่านบ้านท่าเส้น จ.ตราด 

ด้าน นายกีรติ รัชโน อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า กรมได้หารือร่วมกับภาคเอกชน และประเมินว่า มูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 64 จะอยู่ที่ 1.4 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 3-6% จากปี 63 แต่ผ่านไปเพียง 4 เดือน ก็ขยายตัวสูงถึง 26.24% แม้ว่า เกินเป้าหมายมาก แต่ยังไม่ปรับเป้าหมายใหม่ จะทำตัวเลขให้ดีที่สุด และเชื่อว่า จะขยายตัวเกินเป้าหมายแน่นอน เพราะสินค้าไทยยังเป็นที่ต้องการอย่างมาก เนื่องจากมีภาพลักษณ์ และคุณภาพที่ดี, การเร่งรัดเปิดด่านการค้า และเศรษฐกิจของเพื่อนบ้านเริ่มฟื้นตัวหลังการฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 ไปแล้ว