พาณิชย์ประกาศขึ้นทะเบียน 2 สินค้า “จีไอ” ใหม่ล่าสุด

  • “ผ้าตีนจกโหล่งลี้ลำพูน-มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ”
  • มั่นใจสร้างมูลค่าเพิ่ม สร้างงาน สร้างรายได้ให้ชุมชน
  • ชี้จีไอไทย 158 สินค้า จาก 77 จังหวัด ทำเงินได้กว่า 4 หมื่นล้าน

นายสินิตย์ เลิศไกร รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์(จีไอ) เพิ่มอีก 2 สินค้า คือ ผ้าตีนจกโหล่งลี้ลำพูน และมะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ ซึ่งเป็นสินค้าที่มีชื่อเสียงในท้องถิ่นและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค ซึ่งจะช่วยสร้างมูลค่าให้กับสินค้า สร้างงาน สร้างรายได้ให้กับชุมชน ที่ผ่านมาสินค้าจีไอไทยทั้ง 77 จังหวัด รวม 158 สินค้า สร้างมูลค่าทางการตลาดได้กว่า 40,000 ล้านบาท  

สำหรับ “ผ้าตีนจกโหล่งลี้ลำพูน” เป็นผ้าซิ่นตีนจก ทอจากเส้นฝ้าย จกด้วยมือชาวบ้านอย่างประณีตตามกรรมวิธีดั้งเดิม โดยมีองค์ประกอบของผ้า ได้แก่ แอวซิ่น (เอวซิ่น) ตัวซิ่น และตีนจก ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะพื้นถิ่น ผืนผ้าแน่นเรียบ เส้นฝ้ายไม่หลุดลุ่ย ที่ผ่านมา สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการในอำเภอลี้ จังหวัดลำพูน กว่า 630,000 บาท/ปี เมื่อเป็นสินค้าจีไอแล้ว จะยิ่งช่วยเพิ่มมูลค่าของสินค้าได้อีก และสร้างรายได้ให้ชุมชนได้เพิ่มขึ้น

ส่วน “มะม่วงน้ำดอกไม้สมุทรปราการ” เป็นมะม่วงน้ำดอกไม้พันธุ์น้ำดอกไม้เบอร์ 4 รสชาติหวานละมุน ไม่หวานแหลมกลิ่นหอม เปลือกบาง เนื้อสีเหลืองอมส้ม เนื้อละเอียด ไม่มีเสี้ยน เมล็ดเล็กแบนลีบ ผลทรงรี ด้านขั้วผลมีขนาดใหญ่และเล็กลงที่ท้ายผลหรือปลายแหลม ผลสุกมีผิวสีเหลืองเข้ม หรือเหลืองทอง สร้างรายได้ให้เกษตรกรในจังหวัดสมุทรปราการกว่า 42,000,000 บาท/ปี  

“การขึ้นทะเบียนจีไอ จะช่วยให้เกิดการคุ้มครองชื่อสินค้าท้องถิ่นไทย ให้เป็นสิทธิเฉพาะของชุมชน ทำให้ชุมชน หรือคนนอกท้องถิ่น จะแอบอ้างนำชื่อไปใช้กับสินค้า ที่มาจากแหล่งผลิตอื่น ไม่ได้ นอกจากนี้ ยังช่วยยกระดับสินค้าชุมชนให้เป็นสินค้าระดับพรีเมี่ยม สร้างมูลค่าเพิ่ม และสร้างาน สร้างรายได้ให้แก่ผู้ประกอบการ วิสาหกิจชุมชน และเกษตรกรในพื้นที่อย่างยั่งยืน โดยเฉพาะสินค้าเกษตรกรรมและหัตถกรรมที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว และผลิตในท้องถิ่นนั้นๆ เท่านั้น”

นายสินิตย์ กล่าวต่อว่า หลังการขึ้นทะเบียนแล้ว กรมจะผลักดันให้จังหวัด จัดทำระบบควบคุมมาตรฐานสินค้าและการอนุญาตให้ใช้ตรา “จีไอไทย” เพื่อให้ชุมชนมีกระบวนการผลิตอย่างเป็นระบบ สินค้ามีคุณภาพ มาตรฐาน ด้วยการพัฒนาสินค้าหรือบรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับตลาด รวมถึงจะช่วยเพิ่มช่องทางจำหน่ายสินค้าในโมเดิร์นเทรด และศูนย์การค้าชั้นนำ และตลาดออนไลน์ ตลอดจนช่วยประชาสัมพันธ์สินค้าด้วย