พาณิชย์นัดถกผู้ผลิตตรึงราคาขายน้ำมันปาล์มขวด

.หลังพุ่งขวดละเกือบ 60 บาทตามผลปาล์มสดที่สูงขึ้น
.เดือนพ.ย.ปาล์มทะลายสูงสุดโลละเกือบ 10 บาท
.หอการค้าไทยจี้รัฐหาทางรับมือราคาสินค้าขาขึ้น

ร้อยตรีจักรา ยอดมณี รองอธิบดีกรมการค้าภายใน เปิดเผยถึงสถานการณ์ราคาน้ำมันปาล์มขวดเพื่อการบริโภคราคาแพงว่า จากการให้เจ้าหน้าที่ตรวจสอบร้านค้าในระบบส่วนใหญ่ พบว่า น้ำมันปาล์มขวดขึ้นมาอยู่ที่ขวดละ 49-55 บาท แต่ยังไม่ถึงขวดละ 60 บาท ซึ่งในเร็วๆ นี้ กรมจะมีการประชุมร่วมกับผู้ผลิตน้ำมันปาล์ม ห้างสรรพสินค้า ห้างค้าปลีกค้าส่ง เพื่อขอความร่วมมือในการตรึงราคา ไม่ให้กระทบต่อค่าครองชีพประชาชน และให้จำหน่ายในราคาสอดคล้องกับต้นทุน ไม่ให้มีการฉวยโอกาสขึ้นราคา ขณะเดียวกัน ขอให้มีสต็อกให้เพียงพอ

“ยืนยันว่า จากตรวจสอบสต็อก ยังมีสินค้าเพียงพอ ไม่เกิดปัญหาการขาดแคลนแน่นอน จึงขอให้ประชาชนไม่ต้องกังวลว่า จะเกิดขาดแคลน ส่วนราคาที่สูงขึ้นถือว่า มีการปรับขึ้นตามราคาผลปาล์มสดที่เพิ่มขึ้น และทำให้น้ำมันปาล์มดิบเพิ่มขึ้นตาม เนื่องจากในทุกเดือนพ.ย.จะเป็นช่วงที่ผลผลิตปาล์มออกมาน้อย ทำให้ผลปาล์มสดราคาสูงขึ้น ประกอบกับ กระทรวงพาณิชย์ มีนโยบายควบคุมอย่างเข้มงวด ไม่ให้มีการลักลอบการนำเข้าจากเพื่อนบ้าน รวมถึงสนับสนุนให้น้ำมันปาล์มไปผลิตไบโอดีเซล จึงทำให้ราคาปาล์มยังอยู๋ในระดับสูง”

ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ขอให้รัฐบาล เตรียมหาแนวทางรับมือกับราคาสินค้า และค่าครองชีพที่กำลังเพิ่มสูงขึ้น เนื่องจากเมื่อมีการเปิดประเทศ และเศรษฐกิจโลกเริ่มฟื้นตัว ทำให้มีความต้องการสินค้า วัตถุดิบต่างๆ สูงกว่าเดิม และคาดว่า ราคาขายสินค้ามีโอกาสปรับขึ้นต่อเนื่องไปถึงปีหน้า ซึ่งเป็นห่วงว่า จะกระทบต่อภาพรวมเศรฐกิจ เพราะเมื่อราคาสินค้าแพง จะทำให้อัตราเงินเฟ้อสูงกว่าเดิม รวมถึงอาจกระทบต่อการพิจารณาขึ้นค่าแรงขั้นต่ำได้

“ในช่วงนี้ ผู้ผลิตยังคงคงมีกำลังการผลิตเดิมเหลืออยู่ ทำให้ส่วนใหญ่สามารถประคองราคาสินค้าไปได้ แต่ในอนาคต อาจจำเป็นต้องปรับราคาขายเพิ่ม ซึ่งหอการค้าไทย จะนำเรื่องค่าครองชีพ และต้นทุนวัตถุดิบสินค้าราคาแพงเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการร่วมภาครัฐกับเอกชน ของกระทรวงพาณิชย์ (กรอ.พาณิชย์) ภายในเดือนพ.ย.นี้ เพื่อเร่งหาทางรับมือกับผลกระทบที่เกิดขึ้นในอนาคต”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ข้อมูลจากเว็บไซต์กรมการค้าภายใน ระบุว่า ล่าสุด ณ วันที่ 5 พ.ย.64 ราคาที่โรงงานรับซื้อปาล์มทะลาย ที่เปอร์เซ็นต์น้ำมัน 18% ในแหล่งผลิตสำคัญ 3 จังหวัด คือ สุราษฎรฺธานี ที่กิโลกรัม (กก.) ละ 8.90-9.80 บาท หรือเฉลี่ยกก.ละ 9.32 บาท กระบี่ กก.ละ 9.30-9.80 บาท หรือเฉลี่ยกก.ละ 9.51 บาท และชุมพร กก.ละ 8.90-9.70 บาท หรือเฉลี่ยกก.ละ 9.30 บาท ขณะที่น้ำมันดิบ (ซีพีโอ) เฉลี่ยกก.ละ 45.55 บาท ซึ่งแม้ว่า ทำให้เกษตรกรผู้ปลูกปาล์มได้ประโยชน์จากการขายผลผลิตได้ในราคาดี แต่ผู้บริโภค ที่ซื้อน้ำมันปาล์มขวด ได้รับผลกระทบจากราคาน้ำมันปาล์มขวดที่สูงขึ้น