พาณิชย์ดิ้นหาทางส่งออกกล้วยไปตลาดญี่ปุ่น

  • หลังถูกฟิลิปปินส์คู่แข่งสำคัญยึดครองตลาด
  • เชิญผู้นำเข้าเจรจาซื้อขายกับผู้ประกอบการไทย
  • คาดได้ยอดเพิ่มไม่ต่ำกว่า2พันตันกว่า1พันล้านบาท

นายภูสิต รัตนกุล เสรีเริงฤทธิ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยถึงแนวทางการผลักดันการส่งออกกล้วยของไทยเข้าสู่ตลาดญี่ปุ่นว่า ญี่ปุ่นนำเข้ากล้วยปีละกว่า 1 ล้านตัน แต่ไทยส่งออกกล้วยไปญี่ปุ่นเพียง 2,890 ตันต่อปี แม้ภายใต้ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทยญี่ปุ่น (เจเทปาได้ยกเว้นภาษีนำเข้ากล้วยจากไทยปริมาณ 8,000 ตันก็ตาม เพราะมีเจ้าตลาดคือ ฟิลิปปินส์ ที่เป็นคู่แข่งสำคัญ และครองตลาดสูงถึง 76% หรือประมาณ 3 ใน 4 ของตลาดกล้วยในญี่ปุ่นทั้งหมด จึงยังมีโอกาสสำหรับไทยอีกมาก ดังนั้น ในช่วงงานแสดงสินค้าอาหาร THAIFEX – Anuga Asia 2023 สัปดาห์ที่ผ่านมา ทูตพาณิชย์ไทยที่ญี่ปุ่นได้นำผู้นำเข้าญี่ปุ่น 10 บริษัทมาพบปะเจรจาการค้ากับผู้ส่งออกไทยรวม 23 บริษัท 38 ราย ได้รับความสนใจสั่งซื้อเป็นมูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท

ด้านนายฉันทพัทธ์ ปัญจมานนท์ ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการค้าในต่างประเทศ  กรุงโตเกียว กล่าวว่า สาเหตุสำคัญที่ส่งผลให้กล้วยไทยส่งเข้าไปแข่งขันในตลาดญี่ปุ่นได้น้อย แม้ไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า ก็คือการแข่งขันอย่างรุนแรงจากฟิลิปปินส์ ซึ่งเป็นเจ้าตลาด แต่ล่าสุดนี้ ฟิลิปปินส์เพิ่งออกมาประกาศขึ้นราคากล้วยหอมในญี่ปุ่น เพราะต้นทุนที่เพิ่มสูงขึ้น อีกทั้งฟิลิปปินส์ยังประสบปัญหาโรคระบาดในกล้วย ซึ่งส่งผลกระทบต่อปริมาณการผลิต จึงเป็นโอกาสอันดีที่กล้วยไทยจะเข้าไปช่วงชิงตลาด สำนักงานฯจึงนำซุปเปอร์มาร์เก็ตรายใหญ่ เช่น Gyomu Super มีสาขากว่า 1,050 สาขา และ Beisia มีกว่า 130 สาขาทั่วญี่ปุ่น พร้อมด้วยผู้นำเข้า 10 บริษัท มาเจรจาการค้ากับผู้ส่งออกและกลุ่มเกษตรกรผู้ปลูกกล้วยหอม ผู้ผลิตกล้วยแปรรูป และผู้ประกอบการกล้วยที่ได้รับการขึ้นทะเบียนสินค้าสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (จีไอร่วมเจรจาด้วย 

กล้วยไทยมีรสชาติอร่อยกว่าคู่แข่งอีกทั้งมีผลิตภัณฑ์กล้วยแปรรูปหลากลายเบื้องต้นน่าจะเกิดการสั่งซื้อกล้วยหอมจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างน้อย2,000ตันรวมถึงกล้วยแปรรูปรวมมูลค่า1,070.55ล้านบาทหลังจากนี้สำนักงานฯยังจะนำผู้เชี่ยวชาญจากญี่ปุ่นไปให้ความรู้และเตรียมความพร้อมในการส่งออกไปญี่ปุ่นให้แก่กลุ่มสหกรณ์ผู้ปลูกกล้วยไทยในช่วงเดือนก..นี้เป็นต้นไปผู้ที่สนใจติดตามข้อมูลเพิ่มเติมที่www.ditp.go.thหรือโทร.สายด่วน1169”