พาณิชย์ขานรับนโยบาย Thailand Plus Package ของรัฐบาล

  • ถอดธุรกิจบริการบางสาขาออกจากบัญชีแนบท้ายกม.ต่างด้าว
  • เน้นธุรกิจที่เป็นอุตสาหกรรมแห่งอนาคตทั้งการบิน-ดิจิทัล
  • หวังอำนวยสะดวกให้ต่างชาติเข้ามาลงทุนในไทยได้มากขึ้น

นายวีรศักดิ์ หวังศุภกิจโกศล รมช.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้มอบหมายให้กรมพัฒนาธุรกิจการค้า ปรับปรุงบัญชีท้ายพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าวพ.ศ.2542 ให้สอดคล้องกับสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจการค้า การลงทุน เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการขออนุญาตและการกำกับดูแลของภาครัฐ โดยปัจจัยหลักที่ใช้พิจารณาว่าธุรกิจบริการสาขาใดจะได้รับการถอดออกจากบัญชีแนบท้ายหรือไม่นั้น จะให้ความสำคัญกับธุรกิจที่ตอบสนองนโยบายรัฐบาลในอุตสาหกรรมเป้าหมาย ทั้งที่เป็นอุตสาหกรรมเอส-เคิร์ฟ และนิว เอส-เคิร์ฟ เช่น อุตสาหกรรมการบินและโลจิสติกส์ และอุตสาหกรรมดิจิทัล และเป็นธุรกิจที่มีกฎหมายเฉพาะกำกับ เพื่อลดความซ้ำซ้อนในการขออนุญาตและกำกับดูแลของภาครัฐ

“การปรับปรุงบัญชีแนบท้าย พ.ร.บ.ดังกล่าว ถือเป็นการอำนวยความสะดวกแก่ชาวต่างชาติในการเข้ามาลงทุนประกอบธุรกิจในไทย เพราะการถอดออกจากบัญชีแนบท้าย จะทำให้นักลงทุนไม่ต้องมาขออนุญาตการประกอบธุรกิจจากกระทรวงพาณิชย์ เพียงแค่ขออนุญาตจากหน่วยงานที่กำกับดูแลโดยตรง ก็สามารถประกอบธุรกิจได้แล้ว รวมถึงยังทำให้เกิดความง่ายในการประกอบธุรกิจ และส่งเสริมให้ไทยเป็นศูนย์กลางการลงทุนของอาเซียน ทำให้เกิดการแข่งขันด้านพัฒนาประสิทธิภาพและคุณภาพการให้บริการ เป็นกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจของไทย สร้างบรรยากาศการลงทุนที่ดีของประเทศในระยะยาว”

นอกจากนี้ ยังถือเป็นการตอบสนองนโยบาย Thailand Plus Package ของรัฐบาล ที่เร่งรัดการลงทุนและรองรับการย้ายฐานการผลิตจากผลกระทบสงครามการค้า ซึ่งคณะกรรมการรัฐมนตรีฝ่ายเศรษฐกิจ (ครม.เศรษฐกิจ) มอบหมายให้กระทรวงพาณิชย์ดำเนินการด้านความสะดวกในการประกอบธุรกิจ (Ease of Doing Business) โดยเร่งปรับปรุงบัญชีแนบท้ายตามพ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ.2542 เพื่อลดอุปสรรคการลงทุนในไทย คาดว่า จะได้ข้อสรุปในเร็วๆ นี้