พร้อมรับส่งประชาชน!…ขสมก.จัดแผนเดินรถรองรับคนเดินทางช่วงวันหยุดต่อเนื่องวันคล้ายวันสวรรคต ในหลวงรัชกาลที่ 9 ตั้งแต่ 13 – 17 ตุลานี้

นายกิตติกานต์ จอมดวง จารุวรพลกุล ผู้อำนวยการองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ(ขสมก.) เปิดเผยว่า ด้วยในวันพฤหัสบดีที่ 13 ตุลาคม 65 เป็นวันคล้ายวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ประกอบกับรัฐบาลประกาศให้วันศุกร์ที่ 14 ตุลาคม 65 เป็นวันหยุดราชการกรณีพิเศษ ส่งผลให้มีวันหยุดต่อเนื่อง จำนวน 4 วัน ตั้งแต่วันที่ 13 – 16 ตุลาคม 65  ซึ่งประชาชนนิยมเดินทางกลับภูมิลำเนา หรือท่องเที่ยวต่างจังหวัดเป็นจำนวนมาก ขสมก. จึงได้จัดแผนการเดินรถโดยสารรองรับการเดินทางของประชาชน ตั้งแต่วันที่ 13 – 17 ตุลาคม 65 เพื่ออำนวยความสะดวก ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้กับประชาชนผู้ใช้บริการ 

โดยมีรายละเอียด ดังนี้  1. ในเส้นทางปกติ จัดรถออกวิ่ง เฉลี่ยวันละ 2,733 คัน จำนวน 17,001 เที่ยว    2. จัดเดินรถ AIRPORT BUS เชื่อมต่อท่าอากาศยาน จำนวน 5 เส้นทาง รวม 47 คัน ดังนี้

          –  สาย A 1  ท่าอากาศยานดอนเมือง – สถานีรถไฟฟ้า BTS จตุจักร เฉลี่ยวันละ 15 คัน

          –  สาย A 2  ท่าอากาศยานดอนเมือง – อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เฉลี่ยวันละ 12 คัน

          –  สาย A 3  ท่าอากาศยานดอนเมือง – สวนลุมพินี เฉลี่ยวันละ  7 คัน

          –  สาย A 4  ท่าอากาศยานดอนเมือง – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ  7 คัน

          –  สาย S 1   ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ – สนามหลวง เฉลี่ยวันละ  6 คัน

3. จัดเดินรถเชื่อมต่อสถานีขนส่งกรุงเทพ จำนวน 5 สถานี รวม 34 เส้นทาง ดังนี้   

          – สถานีขนส่งกรุงเทพ (จตุจักร) จำนวน 12 เส้นทาง ได้แก่ สาย 3, 16, 49, 77, 96, 134, 136, 138, 145, 509, 517, และ 536 

          – สถานีขนส่งกรุงเทพ (เอกมัย) จำนวน 8 เส้นทาง ได้แก่ สาย  2, 23, 25, 71, 72, 501, 508 และ 511

          – สถานีขนส่งกรุงเทพ (สายใต้ใหม่) จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 66, 79, 511, 515, 516 และ 556 

          – สถานีรถไฟหัวลำโพง จำนวน 6 เส้นทาง ได้แก่ สาย 4, 21, 25, 34, 73 และ 501

          – สถานีกลางบางซื่อ จำนวน 2 เส้นทาง ได้แก่ สาย 49 และ 67

นายกิตติกานต์  กล่าวต่อว่า ส่วนมาตรการความปลอดภัย ด้านพนักงานประจำรถ นั้น 1. กำกับดูแลพนักงานขับรถโดยสารให้ปฏิบัติหน้าที่ตามกฎจราจรอย่างเคร่งครัด รวมทั้ง ให้พนักงานเก็บค่าโดยสาร ดูแลการขึ้น – ลงของผู้ใช้บริการอย่างใกล้ชิด ให้บริการด้วยความสุภาพเรียบร้อย 2. ตรวจวัดแอลกอฮอล์  ความดันโลหิต และอุณหภูมิร่างกายของพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสารทุกครั้ง ก่อนขึ้นปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร พร้อมทั้งกำชับพนักงานขับรถ และพนักงานเก็บค่าโดยสาร สวมหน้ากากอนามัยทุกครั้ง ขณะปฏิบัติหน้าที่บนรถโดยสาร

3. ให้พนักงานขับรถตรวจสอบความพร้อมของรถโดยสาร  และอุปกรณ์ส่วนควบ ก่อนนำรถออกให้บริการ ประสานผู้รับเหมาซ่อมรถ ตรวจเช็คสภาพรถโดยสาร และซ่อมบำรุงรักษารถให้อยู่ในสภาพใช้งานได้ดี  4. จัดพนักงานนายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษประจำจุด ณ ป้ายหยุดรถโดยสารที่มีผู้ใช้บริการหนาแน่น เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการจราจร และดูแลการขึ้น – ลงรถของผู้ใช้บริการ

ส่วนด้านรถโดยสารประจำทาง ขสมก.จะมี เพิ่มความถี่ในการล้างทำความสะอาดระบบปรับอากาศ และการทำความสะอาดผ้าม่าน ใช้ผลิตภัณฑ์ฆ่าเชื้อโรคที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ 70% ฉีดพ่นทำความสะอาดภายในรถโดยสาร และใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าว เช็ดทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ ที่ผู้ใช้บริการต้องสัมผัส เช่น เบาะที่นั่ง ราวจับ กริ่งสัญญาณ เป็นต้น พร้อมทั้งติดตั้งขวดเจลแอลกอฮอล์ สำหรับให้ผู้ใช้บริการล้างมือบริเวณประตูทางขึ้น ขณะเดีัยวกันรติดตั้งป้ายข้อความ “เหลือรถอีก 2 คันสุดท้าย” “เหลือรถอีก 1 คันสุดท้าย” “รถคันสุดท้าย” บริเวณกระจกด้านหน้ารถโดยสารที่วิ่งให้บริการ 3 คันสุดท้ายในแต่ละวัน 

สำหรับด้านผู้ใช้บริการจะขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ สวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลา ขณะใช้บริการรถโดยสาร ล้างทำความสะอาดมือด้วยเจลแอลกอฮอล์ ที่ติดตั้งบริเวณประตูทางขึ้น   ผู้ใช้บริการจะต้องปฏิบัติตามคำแนะนำของพนักงานเก็บค่าโดยสาร นายตรวจ และเจ้าหน้าที่สายตรวจพิเศษอย่างเคร่งครัด  นอกจากนั้นจะขอความร่วมมือผู้ใช้บริการ ชำระค่าโดยสารแบบไร้เงินสด ผ่านบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ทุกประเภทของ ขสมก. บัตรเดบิต – เครดิตที่มีสัญลักษณ์คอนแทคเลส บัตรสวัสดิการแห่งรัฐและโมบายแบงก์กิ้ง  เพื่อลดการสัมผัสธนบัตรและเหรียญกษาปณ์ ที่อาจเป็นสื่อกลางในการแพร่เชื้อโรคฯ

นอกจากนี้ ขสมก. ได้จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการเดินรถ ได้แก่  ศูนย์วิทยุรัชดา  สำนักงานใหญ่องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ  ศูนย์วิทยุเขตการเดินรถที่ 1 – 8  ตั้งแต่วันที่ 13 – 17 ตุลาคม 2565 และจัดเจ้าหน้าที่ Call Center 1348  ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสารในการเดินรถอีกด้วย